นครปฐม - ผบช.ภ.7 นำทีมแถลงปิดคดี อดีตผู้ใหญ่บ้านปืนโหด ยิงน้องชายดับ หลานชายเป็นผู้ใหญ่บ้านเจ็บ หลังหลบหนี 4 วัน โดยสารภาพโกรธที่โดนปิดทางเข้าบ้าน หลังเคยเจรจากันมาแล้วนานนับปี สื่ออึ้งพบมือยิงรุ่นดึกเดินแทบไม่ไหว ต้องพยุงให้ปากคำ หลังสอบเสร็จตำรวจค้านประกันตัว เตรียมส่งดำเนินคดีทันที
วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่ สภ.บางเลน อ.บางเลน จ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พ.ต.อ.อรรถการ กองสุผล ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พ.ต.อ.ปรีชา ทิมหอม ผู้กำกับการสถานีตำภูธรบางเลน พร้อมชุดคลี่คลายคดี ได้แถลงข่าวผลการจับกุมและคลี่คลายคดีกรณีอดีตผู้ใหญ่บ้านก่อเหตุใช้อาวุธปืนบุกกราดยิงใส่พี่ชายตัวเองเสียชีวิต และหลานชายบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดในพื้นที่ ม.1 ต.คลองนกกระทุง อ.บางเลน เมื่อเวลาประมาณ 10.50 น. ของวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เผยว่า การแถลงข่าวดังกล่าว สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเลน ได้รับแจ้งเหตุมีการยิงกันตายและได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดริมถนนสาธารณะ หมู่ที่ 1 ต.คลองนกกระทุง โดยพบผู้เสียชีวิตคือ นายณรงค์ ศรีคำหู้ อายุ 80 ปี ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ได้ช่วยปฐมพยาบาลแต่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยพบปลอกกระสุนปืนขนาด .38 ซูเปอร์ ตกในที่เกิดเหตุ 2 ปลอก และทราบว่ามีผู้ถูกยิงอีก 1 ราย คือ นายสุพช ศรีคำหู้ อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.คลองนกกระทุง โดยเป็นบุตรชายของนายณรงค์ โดยถูกส่งตัวไปรักษาตัวที่ รพ.บางเลน
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวอีกว่า ในที่เกิดเหตุมีพยานบุคคลระบุว่า คนที่ก่อเหตุคือ นายสุริพล ศรีคำหู้ อายุ 75 ปี เป็นน้องชายของนายณรงค์ และเป็นอาของนายสุพช โดยเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน และนายสุริพล ยังเคยเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ด้วย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติขอหมายจับกุม นายสุริพล ตามหมายจับที่ จ.147/2565 ลงวันที่ 1 มิถุนายน 65 ในฐานความผิด “ฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น” ต่อมาในวันที่ 3 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ชุดไล่ล่าสามารถติดตามจับกุมได้ตัวที่ถนนพลดำริห์ ม.8 ต.บางเลน อ.บางเลน พร้อมด้วยอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
“ชนวนที่ทำให้เกิดการบุกยิงดังกล่าว เนื่องจากราว 1 ปี ที่ผ่านมา นายสุริพล ได้มีการพูดคุยกับนายณรงค์ พี่ชายและนายสุพช หลานชายเรื่องการขอแบ่งที่ดินประมาณ 200 ตารางวาเศษ เพื่อใช้เป็นทางเข้าออกบ้านแต่ไม่สามารถคุยกันในครอบครัวได้ลงตัว ซึ่งทำให้เกิดความขุ่นเคืองใจมาประมาณ 1 ปีเศษ ซึ่งวันเกิดเหตุ นายสุริพล ได้ออกไปนอกบ้านและขับรถกระบะกลับเข้ามาแต่พบว่าถนนทางเข้าถูกปิดไว้ ด้วยความโมโหจึงได้วนรถไปพบนายสุพช นั่งทำงานแปรรูปไม้ที่หน้าบ้านจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ ได้รับบาดเจ็บ และขับรถออกไปพบ นายณรงค์ พี่ชายนั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่ศาลารอรถประจำทางตรงปากทาง จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงไปด้วยทำให้นายณรงค์ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนนายสุพช ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตอนนี้ได้สอบสวนเสร็จสิ้นจะนำตัวส่งศาลเพื่อดำเนินคดีทันที โดยในชั้นตำรวจได้ให้การคัดค้านการประกันตัว
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เผยว่า นอกจากนี้ยังจะมีการดำเนินการเกี่ยวกับอาวุธปืนด้วย เนื่องจากมีการจับกุมอาวุธปืนมากแล้ว ยังมีการใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุในพื้นที่ ตอนนี้ได้สั่งการให้ทุก สภ.ในสังกัดดำเนินการจับกุมอย่างเด็ดขาด และจะมีปฏิบัติการในการกวาดล้างให้เข้มข้นมากขึ้นแน่นอน และยังจะมีการสั่งการให้เพิกถอนใบอนุญาตอาวุธปืนซึ่งได้ประสานงานร่วมกับทางฝ่ายปกครองไว้แล้ว
โดยคดีนี้แม้ผู้ก่อเหตุจะสารภาพว่าลงมือก่อเหตุเพราะความโกรธ แต่ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ ซึ่งทางตำรวจต้องดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย แม้สุขภาพและอายุของมือยิงจะมากและไม่แข็งแรง แต่ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ
ด้าน พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า สำหรับการติดตามตัวผู้ต้องหา ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมาก ซึ่งตอนนี้ได้มีการประสานงานเพื่อการเตรียมการป้องกันที่จะมีการเปิดศึกล้างแค้นกันเองในครอบครัว ซึ่งทางตำรวจพร้อมที่จะเป็นตัวกลางให้ โดยไม่อยากให้เกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้นอีก