ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกเทศมนตรีเกล็ดแก้ว ลุยตรวจสถานพักพิงสุนัขเพจ “หมามะเร็ง Dogs Cancer” ใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังพบเปิดรับบริจาคเงินจนเกิดกระแสดรามาในโลกออนไลน์ ตรวจสอบพบไม่ขออนุญาตจัดตั้ง ซ้ำการดูแลไม่ถูกระเบียบเสี่ยงถูกปิด จี้เจ้าของเพจชี้แจง
จากกรณีที่เพจช่วยเหลือสุนัขป่วยชื่อ “หมามะเร็ง Dogs Cancer” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 4.5 แสนราย และได้ทำการเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ เพื่อนำไปรักษาสุนัขที่ป่วยจนทำให้ที่ผ่านมามีผู้โอนเงินบริจาคจำนวนมาก
และเมื่อเร็วๆ นี้ยังได้โพสต์ข้อความ “เพจขอยุติ เดินต่อไม่ไหวแล้ว” จนเกิดดรามาในโลออนไลน์ และมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากนั้น
วันนี้ (2 มิ.ย.) นายยศวัฒน์ ภูวรัตน์เลิศคุณ นายกเทศมนตรีตำบลเกล็ดแก้ว พร้อมด้วย พันจ่าเอกประพัฒน์ สถิตย์วัฒน์ ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบสถานพักพิงและเลี้ยงดูสุนัขที่อยู่ในความดูแลของเพจ “หมามะเร็ง Dogs Cancer” ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ว่างเปล่าเนื้อที่ 2 ไร่ ติดถนนสาย 332 ม.6 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
โดยพบพื้นที่ดังกล่าวถูกกั้นอาณาบริเวณด้วยเมทัลชีท ขณะที่พื้นที่เลี้ยงสุนัขจัดตั้งเป็นโครงเหล็กมุงหลังคาด้วยเมทัลชีท และภายในมีกรงเหล็กขังสุนัขไว้กว่า 200 ตัว และยังมีสุนัขที่เดินอยู่ในพื้นที่ภายนอกอีกหลายสิบตัว
และเมื่อสุนัขเห็นทีมงานเจ้าหน้าที่ได้พากันส่งเสียงร้องดังทั่วบริเวณ แต่ไม่พบเจ้าของเพจดังกล่าว โดยพบเพียงพนักงานชายหญิงที่ถูกว่าจ้างให้ดูแลสุนัขเท่านั้น
จากการสอบถาม น.ส.จุฑาพร แสงวัฒน์ อายุ 30 ปี หัวหน้าคนงานบอกว่า สถานพักพิงช่วยเหลือสุนัขแห่งนี้เปิดดำเนินการได้ประมาณ 5 ปี ปัจจุบันมีสุนัขอยู่ในความดูแลราว 260 ตัว ส่วนใหญ่เป็นสุนัขพันธุ์ไทย สุนัขจรจัด และสุนัขที่รับเลี้ยงดู
โดยมีสุนัขที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งประมาณ 70-80 ตัว และสุนัขที่ป่วยจะถูกส่งไปรักษายังโรงพยาบาลสัตว์สัตหีบ ส่วนพนักงานซึ่งทำหน้าที่ดูแลสุนัขภายในศูนย์พักพิงมีจำนวน 9 คน และจะได้รับเงินเดือนคนละ 10,000-12,000 บาท
น.ส.จุฑาพร ยังเผยอีกว่า ตนเองทำหน้าที่เพียงดูแลสุนัขเท่านั้น และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปิดรับเงินรับบริจาค ที่สำคัญไม่เคยรับรู้ยอดบริจาคมาแต่อย่างใด และจะมีเพียง น.ส.หนูนา ซึ่งเจ้าของเพจเป็นผู้ดูแลเงินบริจาคเองทั้งหมด
ด้าน นายยศวัฒน์ ภูวรัตน์เลิศคุณ นายกเทศมนตรีตำบลเกล็ดแก้ว เผยว่า จากการตรวจสอบสถานพักพิงช่วยเหลือสุนัขแห่งนี้พบว่าไม่มีการขออนุญาตจัดตั้งแต่อย่างใด และยังพบว่าสถานที่ดูแลสุนัขยังไม่เป็นไปตามระเบียบที่วางไว้
อีกทั้งยังเข้าข่ายผิดเทศบัญญัติกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และการควบคุมการเลี้ยง หรือปล่อยสัตว์ ซึ่งอาจถูกสั่งปิดหรือระงับได้
เบื้องต้น จึงได้ประสานไปยัง น.ส.หนูนา ซึ่งเป็นเจ้าของเพจเพื่อนัดหมายให้นำเอกสารและหลักฐานการจัดตั้งศูนย์พักพิง รวมถึงการรับบริจาค และค่ารักษาพยาบาลสัตว์ที่ป่วยให้เข้าชี้แจงต่อเทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว ในเวลา 10.00 น.ของวันจันทร์ที่ 6 มิ.ย.นี้เพื่อหาข้อสรุปต่อไป
