บุรีรัมย์ - สมาคมขนส่งภาคอีสานจ่อปรับขึ้นค่าขนส่งอีก 10% หลังราคาน้ำมันดีเซลราคาพุ่งไม่หยุด ล่าสุดพุ่งทะลุ 32.94 บาท หากยังปล่อยขึ้นราคาเรื่อยๆ จำเป็นต้องปรับขึ้นตามกลไกราคาน้ำมันเพื่อความอยู่รอด โอดรัฐไม่จริงใจช่วยเหลือแก้ปัญหาราคาน้ำมันแพง ปล่อยผู้ประกอบการและ ปชช.แบกรับภาระกันเอง
วันนี้ (1 มิ.ย.) สมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน ซึ่งมีผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกทั่วภาคอีสานมากกว่า 700 ราย รถบรรทุกบริการขนส่งสินค้ามากกว่า 10,000 คัน เตรียมปรับขึ้นค่าขนส่งสินค้าอีกร้อยละ 10 หลังจากที่คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติจะปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลอีกลิตรละ 1 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลหน้าปั๊มอยู่ที่ลิตรละ 32.94 บาท ซึ่งแพงเป็นประวัติการณ์ และหากราคาน้ำมันยังคงปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าก็จำเป็นจะต้องปรับราคาค่าขนส่งตามภาวะกลไกราคาน้ำมันเช่นกัน เพื่อความอยู่รอดของผู้ประกอบการ เพราะแบกรับต้นทุนไม่ไหวเนื่องจากปัจจัยหลักของธุรกิจภาคขนส่งคือราคาน้ำมัน
นายสมคิด กิ่งกรดกลาง เจ้าของ “บุรีรัมย์พนมรุ้งขนส่ง” ในฐานะนายกสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน ระบุว่า หลังจากที่ กบน.มีมติปล่อยลอยตัวราคาน้ำมันดีเซลเมื่อช่วงที่ผ่านมา ผู้ประกอบการก็ได้ปรับขึ้นค่าขนส่งสินค้าเฉลี่ยร้อยละ 5-10 เปอร์เซ็นต์มาแล้วรอบหนึ่ง แต่รัฐยังปล่อยให้ราคาน้ำมันปรับขึ้นอีกอย่างต่อเนื่องจนล่าสุดเกือบลิตรละ 33 บาทแล้ว ทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน จึงจำเป็นต้องปรับขึ้นค่าขนส่งอีกร้อยละ 10 เพื่อความอยู่รอด เพราะแบกรับต้นทุนจากค่าน้ำมันที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ไหว และนอกจากจะแบกรับภาระค่าน้ำมันแล้ว ยังต้องดูแลพนักงานอีกหลายชีวิต
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะปรับขึ้นราคาต้องมีการพูดคุยกับห้างร้านต่างๆ ที่ใช้บริการก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เข้าใจในสถานการณ์ แต่อยากให้รัฐบาลเร่งหามาตรการช่วยเหลือตรึงราคาน้ำมันไม่ให้ปรับขึ้นอีก หรือหากเป็นไปได้อยากให้ลดลงกว่านี้ เพราะนอกจากผู้ประกอบการจะเดือดร้อนแล้ว ประชาชนผู้ใช้รถก็เดือดร้อนเป็นลูกโซ่ไปตามๆ กัน อยากให้รัฐบาลจริงใจในการแก้ปัญหาและช่วยเหลือประชาชนด้วย