บุรีรัมย์ - ผู้ประกอบการสถานบันเทิงที่บุรีรัมย์เร่งปรับปรุงทำความสะอาดฆ่าเชื้อ เช็กระบบไฟ เครื่องเสียง เตรียมพร้อมเปิดให้บริการ 1 มิ.ย.หลังปิดมานานร่วมปีเพราะพิษโควิด ยันพร้อมปฏิบัติตามประกาศ ศบค.แต่ยังกังวลถูกปิดอีก โอดกระทบหนักพนักงานต่างดิ้นรนหางานทำเอาตัวรอด บางร้านยังไม่กล้าเปิดเพราะไม่มั่นใจ
วันนี้ (31 พ.ค.) ผู้ประกอบการสถานบันเทิงหลายแห่งในจังหวัดบุรีรัมย์ต่างให้พนักงานเร่งปรับปรุง ทำความสะอาดฆ่าเชื้อ จัดโต๊ะเก้าอี้ เช็กระบบไฟ และเครื่องเสียงภายในร้านเพื่อเตรียมเปิดให้บริการ หลังจากคณะกรรมการบริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด -19 (ศบค.ชุดใหญ่) ได้เห็นชอบปลดล็อกหรือผ่อนคลายให้ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานบริการที่มีลักษณะคล้ายกันในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) 17 จังหวัด และพื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) อีก 14 จังหวัด สามารถเปิดให้บริการได้ตามเวลาที่กำหนด คือ ไม่เกิน 24.00 น. หรือเที่ยงคืน
ภายใต้มาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อของกระทรวงสาธารณสุข เช่น พนักงาน นักร้อง นักดนตรี และบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์, ต้องมีการตรวจคัดกรองความเสี่ยงพนักงานทุกคนด้วย (TST), ตรวจพนักงานทุกคนด้วย ATK ทุก 7 วัน และเมื่อมีอาการหรือความเสี่ยง ส่วนผู้รับบริการต้องแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์รวมถึงวัคซีนเข็มกระตุ้น จัดระยะห่างโต๊ะอย่างน้อย 1 เมตร เป็นต้น
ผู้ประกอบการต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ารู้สึกดีใจที่ได้เปิดให้บริการหลังจากที่ปิดมานานร่วมปี ทำให้ทั้งผู้ประกอบการ พนักงานต่างได้รับผลกระทบขาดรายได้ไปตามๆ กัน แต่พอภาครัฐผ่อนปรนให้เปิดบริการได้ แม้จะถึงเที่ยงคืนแต่ก็เป็นแนวโน้มที่ดีที่จะได้ทำมาหากิน ซึ่งผู้ประกอบการก็พร้อมให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามมาตรการที่ภาครัฐกำหนด
แต่จากการสำรวจพบว่ามีผู้ประกอบการสถานบันเทิงบางรายที่ยังไม่มีการทำความสะอาดเตรียมเปิดให้บริการ อาจจะยังไม่มั่นใจในสถานการณ์กลัวจะถูกปิดอีก อาจจะรอดูท่าทีหรือสถานการณ์อีกสักระยะก่อน
นายเอก อายุ 42 ปี ผู้ดูแลร้านฟูลเฮ้าส์ บอกว่ารู้สึกดีใจที่ภาครัฐอนุญาตให้เปิดบริการในวันพรุ่งนี้ หลังจากที่ปิดไปนานร่วมปี ทำให้ทั้งผู้ประกอบการและพนักงานได้รับผลกระทบไปตามๆ กันเพราะขาดรายได้ พนักงานแต่ละคนจึงต้องดิ้นรนเอาตัวรอดด้วยการไปหางานอื่นทำเลี้ยงชีพช่วงที่รัฐให้ปิดบริการ ส่วนที่รัฐอนุญาตให้เปิดบริการได้ก็พร้อมปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ส่วนพนักงานเดิมก็มีหลายคนที่ไม่กลับมาทำงานอีก แต่คงจะยังไม่รับสมัครเพิ่ม ต้องรอดูอีกทีว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการหรือไม่
ยอมรับว่ายังแอบกังวลอยู่บ้างกลัวว่าอาจจะมีสถานการณ์อะไรที่ทำให้ต้องถูกประกาศปิดบริการอีก จึงอยากจะฝากถึงทางภาครัฐว่า หากเป็นไปได้ก็ไม่อยากจะให้ประกาศปิดอีก ควรจะใช้มาตรการอื่นแทนที่ยังพอให้สามารถทำมาหากินได้ จะได้ไม่เดือดร้อนหรือกระทบมากนัก เพราะทุกคนต้องทำมาหากินที่ผ่านมาก็กระทบหนักแล้ว
