นครสวรรค์ - ผอ.โรงเรียนดังลาดยาว และผู้ปกครองยันทำความเข้าใจกันแล้ว..ปมคลิปครูกระชากเด็ก นร.ล้มว่อนโซเชียลฯ ยันเหตุการณ์จริงไม่รุนแรงเหมือนคลิป พบเป็นเด็กสมาธิสั้น มีสภาวะทางจิตใจ
กรณีเพจเฟซบุ๊ก “สหพันธ์นักเรียน นครสวรรค์” ได้โพสต์คลิปภาพเหตุการณ์ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งยืนตะคอกสั่งนักเรียนที่นั่งอยู่กับพื้นให้ลุกขึ้นยืน พร้อมกับกระชากมือเด็กนักเรียนคนนั้นลากถูไปมากับพื้นอาคารเรียน ซึ่งมีช่วงหนึ่งที่นักเรียนกำลังจะใส่รองเท้าเพื่อลุกขึ้น แต่กลับถูกครูคนดังกล่าวกระชากลงไปนั่งกับพื้นอีก แต่สุดท้ายครูก็ได้พานักเรียนคนดังกล่าวเดินออกไปจากอาคารเรียนทันที
พร้อมระบุข้อความด้วยว่า “News โรงเรียนเหลืองขาวประจำอำเภอลาดยาว ครูฝ่ายปกครองในโรงเรียนดังกล่าวได้มีพฤติกรรมแสดงความรุนแรงต่อนักเรียนชั้น ม.1 ทั้งการใช้คำพูดและการใช้ความรุนแรง โดยสามารถรับชมได้ในคลิป ซึ่งถ้าหากนักเรียนมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม หรือผิดระเบียบ ครูควรจะตักเตือนก่อนหรือไม่ ให้สังคมได้ช่วยกันพิจารณานะครับ -สหพันธ์นักเรียนนครสวรรค์ #ANS4HumanRights #โรงเรียนเหลืองขาวประจำอำเภอลาดยาว”
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบข้อมูลคลิปที่ถูกโพสต์เผยแพร่ จนทราบว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนลาดยาววิทยาคม อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ที่เป็นโรงเรียนรัฐชื่อดังประจำอำเภอ จึงได้เดินทางไปสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นจาก นายไพบูลย์ เขียนประเสริฐ ผอ.โรงเรียนลาดยาววิทยาคม ซึ่งได้รับการเปิดเผยว่าคลิปที่ถูกเผยแพร่ออกไปตามโซเชียลเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
เบื้องต้นทางครูประจำชั้น ม.2 ได้แจ้งมาว่าเด็กนักเรียนที่ปรากฏอยู่ในคลิปมีปัญหาไม่มาเรียน และมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอยู่บ่อยครั้ง จึงได้ประสานให้ครูที่ปรึกษาไปพูดคุยกับเด็กเพื่อสอบถามปัญหา แต่ปรากฏว่าครูที่ปรึกษากลับถูกเด็กนักเรียนคนดังกล่าวตอกกลับไม่ให้มายุ่ง และให้ไปดูแลลูกของครูให้ดีก่อน
ซึ่งครูที่ปรึกษาก็ไม่ได้ถือโกรธเด็กนักเรียนคนนั้น แต่คิดว่านักเรียนคนนี้น่าจะมีปัญหาซ่อนอยู่ลึกๆ จึงได้ติดต่อไปพูดคุยกับทางผู้ปกครอง จนมีความเห็นว่าเด็กอาจจะมีปัญหาเรื่องสมาธิสั้นและสภาพจิตใจ และทางผู้ปกครองได้ยินยอมที่จะให้เด็กนักเรียนเข้าสู่กระบวนการคัดกรองและประเมิน จึงได้มีการเรียกนักเรียนให้มาพบครูที่ฝ่ายกิจการนักเรียน แต่เด็กกลับไม่ยอมมาพบ ทำให้ครูต้องออกไปตามหาตัว กระทั่งไปเจอตัวที่อาคารเรียนหลังหนึ่ง จนทำให้เกิดเรื่องราวตามที่ปรากฏอยู่ในคลิป
“เหตุการณ์วันนั้น ยืนยันว่าครูไม่ได้มีการทุบตี หรือทำร้ายเด็กนักเรียนคนดังกล่าว แต่ในช่วงจังหวะนั้น ครูได้ไปดึงมือของนักเรียนจนทำให้นักเรียนลื่นล้ม ซึ่งภาพในคลิปอาจจะดูว่ารุนแรงมาก แต่เหตุการณ์จริงๆไม่ใช่เป็นอย่างนั้นแน่นอน เพราะพื้นอาคารเรียนหลังนั้นเป็นพื้นไม้ขัดมัน ถ้าหากไม่ระวังก็อาจจะล้มได้ง่ายๆ ซึ่งก็เคยมีนักเรียนลื่นล้มมาแล้วบ่อยครั้ง และวันนั้นนักเรียนคนนี้ใส่ถุงเท้าอยู่ด้วย จึงทำให้ลื่นล้มง่ายขึ้นจนเกิดดูเป็นภาพที่รุนแรง”
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเรื่องขึ้น ทางโรงเรียนก็ได้มีการติดต่อไปยังผู้ปกครองของเด็กเพื่ออธิบายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น และทางผู้ปกครองเขาก็เข้าใจ อีกทั้งในวันถัดมาก็ได้มีการเชิญผู้ปกครองมาพูดคุยกันที่ห้องทำงานของตน จึงมีความเห็นร่วมกันว่าเด็กนักเรียนคนนี้จะต้องเข้าสู่กระบวนการทดสอบ ด้วยการพาไปยังโรงพยาบาลลาดยาว และเข้าทำการทดสอบตามขั้นตอนของแพทย์ แล้วก็พบว่าเด็กมีปัญหาในเรื่องของสภาวะทางจิต ทางโรงเรียนและผู้ปกครองจึงได้ร่วมกันทำเรื่องส่งเด็กคนนี้ไปบำบัดปรับสภาพจิตยังโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ โดยมีกำหนดพบแพทย์ในวันที่ 21 มิถุนายนที่จะถึงนี้
“เหตุการณ์นี้อยากจะบอกว่าการตัดสินว่าใครผิดใครถูก หรือว่าใครเป็นยังไง มันใช้ความรู้สึกตัดสินกันไม่ได้ อย่างเช่นเด็กคนนี้ เรามารู้ว่าเขามีสภาวะทางด้านอารมณ์ ทำให้เราต้องยิ่งเข้าใกล้และดูแลเขาอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกันกับครูก็มีหน้าที่ที่จะต้องดูแลนักเรียนให้ดีเช่นกัน แม้บางครั้งภาพที่ปรากฏออกมาอาจดูมีความรุนแรง แต่จริงๆ แล้วครูทำไปเพราะความเป็นห่วง เพราะจะต้องทำให้นักเรียนอยู่ในกรอบของระบบการศึกษา เล่าเรียนหนังสือจนจบ ส่วนครูคนนี้ ปกติเขาก็เป็นคนเสียงดังอยู่แล้ว แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ถือเป็นบทเรียนสำคัญ ซึ่งก็ได้มีการเรียกครูคนนี้มาพูดคุย เพื่อปรับเปลี่ยนวิธีและแนวทางในการเข้าหานักเรียนให้ดูนุ่มนวลขึ้นมากกว่านี้” ผอ.โรงเรียนกล่าว
ด้านนายแก้ว อ้ายแสง อายุ 42 ปี ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่ปรากฏในคลิป เปิดเผยว่า ลูกชายมีปัญหาในระหว่างเรียนจริง และเขามีปัญหาในเรื่องของสมาธิสั้นมาตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาแล้ว อีกทั้งยังมีพฤติกรรมแสดงอาการต่อต้านทุกครั้งเมื่อพ่อแม่ใช้ให้ทำอะไร ยิ่งพ่อแม่ใช้น้ำเสียงดุ เขาก็ยิ่งต่อต้านมากยิ่งขึ้น ซึ่งตนก็รู้พฤติกรรมของลูกอยู่แล้ว จึงไม่ได้ติดใจอะไรกับโรงเรียน
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามคลิป ตนได้สอบถามลูกชายแล้ว ได้ความว่า ขณะนั้นเขากำลังจะเข้าห้องไปเรียนวิชาที่เขาชอบมาก แต่กลับถูกอาจารย์มาตามให้ไปที่ห้องกิจการนักเรียน จึงทำให้เขาเกิดอาการต่อต้านตีมึนนั่งนิ่งเงียบ ไม่ยอมพูดเปิดปากกับอาจารย์ว่าต้องการเรียนวิชาที่ชอบ จึงทำให้เกิดปัญหาความไม่เข้าใจกัน แต่หลังจากวันนั้น ตนและลูก รวมถึงคุณครู ต่างก็เข้าใจกันดีแล้ว