เชียงราย – เจ้าหน้าที่ป่าไม้เชียงราย บุกยึดคืนเรียบ..“ม่อนดอยช้างงูพระเจ้าพรหมมหาราช” รุกพื้นที่ป่าสงวนฯชายแดนเชียงแสน กว่า 10 ไร่ สร้างอาคาร-ตั้งพระพุทธรูป ฯลฯ เบื้องต้นพบ “พระครูดังแม่สาย”มีเอี่ยว คาดเตรียมตั้งเป็นสำนักปฏิบัติธรรม
เจ้าหน้าที่สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจยึดพื้นที่ป่าด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของหมู่บ้านแม่มะ หมู่ 1 ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำมะและป่าสบรวก เมื่อสุดสัปดาห์นี้
โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้รับหนังสือจากฝ่ายปกครองในพื้นที่ ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน แจ้งว่าผืนป่าบริเวณดังกล่าวถูกกลุ่มบุคคลเข้าไปบุกรุกสร้างสิ่งปลูกสร้างลักษณะถาวร รวมทั้งรูปปั้นต่างๆ เป็นจำนวนมาก
เมื่อเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ร่วมกันเข้าตรวจสอบ ก็พบว่าพื้นที่ป่าสงวนฯดังกล่าว ถูกบุกรุก-สร้างอาคารต่างๆ รวมทั้งมีพระพุทธรูปจำนวนมากตั้งอยู่ ขณะที่ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น บ่อน้ำบาดาล ฯลฯ โดยมีการระบุข้อความด้านหน้าว่า "ม่อนดอยช้างงูพระเจ้าพรหมมหาราช” ตรวจพิกัดด้วยดาวเทียมแล้วปรากฎว่าพื้นที่อยู่ในแนวป่ารวม 11 ไร่ 1 งาน 53 ตารางวา แต่ยังไม่พบบุคคลที่แสดงความรับผิดชอบในการก่อสร้างสิ่งต่างๆ ดังกล่าว
สอบถามนายเศกสันติ์ กองศรี กำนัน ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน ทราบว่าผู้ที่เข้าไปก่อสร้างสิ่งต่างๆ ดังกล่าวเป็นพระครูรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียงใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่าการเข้าไปยึดครองพื้นที่เพื่อก่อสร้างดังกล่าวเป็นการกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ ปี 2484 และแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 54 ฐาน "ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต" และมาตรา 55 ฐานครอบครองป่าที่ถูกแผ้วถางฯ รวมถึง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ปี 2507 และแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 14 ฐานยืดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยที่ดิน ก่อสร้าง ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ยังมีมาตรา 26/4 เป็นการละเว้นการกระทำฯ อันเป็นการทำลายหรือเป็นเหตุให้เกิดการทำลายหรือทำให้สูญหายหรือสเยหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติในเขตป่าสงวนแห่งชาติฯ อีกด้วย
และล่าสุดนายเสือ ปรุงธัญญพฤกษ์ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชร.11 (เชียงแสน) ได้เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อผู้กระทำความผิดดังกล่าว โดยมีพยานเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ที่ร่วมกันเข้าตรวจสอบพร้อมรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน ดำเนินการตรวจหาผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป