อุบลราชธานี - ผกก.วารินชำราบลั่นหากเกิดเหตุร้ายขึ้นในโรงพยาบาล ให้กำลังจากทุกส่วนที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุต้องเข้าระงับเหตุภายในเวลาไม่เกิน 5 นาที หลังหนุ่มใหญ่ถ่มน้ำลายใส่พยาบาลห้องฉุกเฉิน
จากกรณีเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลประจำอำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี โร่แจ้งความถูกญาติคนป่วยเมากร่างก่อความวุ่นวาย ก่อนถ่มน้ำลายใส่ เหตุขัดขวางไม่ให้นำตัวกลับบ้าน หลังแพทย์ให้นอนสังเกตอาการทางสมองจากอุบัติเหตุ
ความคืบหน้าเมื่อช่วงสายวันนี้ (16 พ.ค.) พ.ต.อ.ยุทธนา พฤกษารุ่งเรือง ผกก.สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พร้อมชุดสืบสวนเข้าเก็บหลักฐานและดูภาพจากทีวีวงจรปิด ขณะหนุ่มใหญ่วัย 50 ปี ซึ่งเป็นญาติผู้พี่ของนายเดชา ผู้ป่วยจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกันเมื่อค่ำวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา และถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ โดยแพทย์ที่ให้การรักษาสั่งให้น้ำเกลือ พร้อมให้นายเดชา คนเจ็บนอนพักสังเกตอาการบาดเจ็บบริเวณสมองในห้องฉุกเฉิน
ระหว่างนั้น พี่ชายของผู้ป่วยที่มีอาการเมาสุราได้เข้ามาก่อความวุ่นวายในห้องฉุกเฉิน เพราะต้องการจะนำตัวนายเดชากลับบ้านพัก และใช้มือพยายามดึงสายน้ำเกลือออก ทำให้มีปากเสียงกับนายวิทย์ พยาบาลที่เข้าห้ามปราม พร้อมทั้งดึงหน้ากากออก ก่อนถ่มน้ำลายเข้าใส่ ทำให้เกิดการผลักดันกันขึ้น ก่อนเจ้าหน้าที่ รปภ.ของโรงพยาบาลช่วยกันจับตัวชายที่ก่อเหตุวุ่นวายใส่กุญแจมือ นำตัวออกไปจากห้องฉุกเฉิน และได้ขึ้นรถจักรยานยนต์เพื่อนที่ขี่มารับหนีไป หลังเกิดเหตุนายวิทย์ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน
ด้าน พ.ต.อ.ยุทธนาได้เข้ามาเก็บหลักฐานและเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาลประจำห้องฉุกเฉิน พร้อมให้หมายเลขโทรศัพท์สายตรงของตนเองไว้กับเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินเพื่อให้โทร.แจ้งหากเกิดเหตุทำนองนี้ขึ้นอีก โดยระบุว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทั้งสายตรวจปราบปรามแวะเวียนเข้ามาตรวจดูความสงบภายในโรงพยาบาลเป็นระยะตลอด 24 ชั่วโมง
และเมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้นในโรงพยาบาล ให้กำลังจากทุกส่วนที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ทั้งชุดสืบสวน จราจร และสายตรวจปราบปราม ต้องเข้ามาระงับเหตุภายในเวลาไม่เกิน 5 นาที
นอกจากนี้ ในวันศุกร์ที่ 20 พ.ค. ยังได้นัดซ้อมแผนเผชิญเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาลของโรงพยาบาล เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการปฏิบัติร่วมกัน ทั้งด้านภัยพิบัติ และกรณีเมื่อมีญาติพี่น้องผู้ป่วยเข้ามาก่อความวุ่นวายภายในโรงพยาบาล จะสามารถระงับเหตุได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ส่วนการดำเนินคดีต่อชายที่เข้ามาก่อความวุ่นวาย ถ่มน้ำลายใส่เมื่อคืนรู้ตัวแล้ว อยู่ระหว่างให้ชุดสืบสวนประสานญาติแจ้งให้เจ้าตัวมาพบเพื่อรับทราบข้อหาทำร้ายร่างกายและจิตใจเจ้าหน้าที่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ สำหรับพฤติกรรมเปิดหน้ากากและถ่มน้ำลาย ก็เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ตามประกาศของจังหวัดด้วย
