xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนาอีสานถือฤกษ์ดีไถนาหว่านกล้า “วันพืชมงคล” เชื่องอกงามได้ผลผลิตดี วอนรัฐช่วยดันราคาข้าว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ - ชาวนาบุรีรัมย์-สุรินทร์ และหลายจังหวัดในภาคอีสานถือฤกษ์ดีวันพืชมงคลที่มีการประกอบพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เริ่มไถปรับพื้นที่นาหว่านกล้า เชื่อทำให้ต้นข้าวเจริญงอกงามอุดมสมบูรณ์และได้ผลผลิตดี เผยปีนี้ฝนดีตั้งแต่ต้นฤดู แต่วอนรัฐบาลช่วยราคาข้าวไม่ควรต่ำกว่า กก.ละ 14-15 บาท

วันนี้ (13 พ.ค.) ชาวนาบ้านโคกใหม่พัฒนา ต.แสลงพัน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ได้ถือฤกษ์ดีวันพืชมงคลที่มีการประกอบพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ได้เริ่มลงมือไถปรับพื้นที่นาเตรียมหว่านกล้า ซึ่งเป็นความเชื่อที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เพราะชาวนาเชื่อว่าหากเริ่มลงมือไถเตรียมดินในวันพืชมงคล จะเป็นสิริมงคลทำให้ต้นข้าวเจริญงอกงามอุดมสมบูรณ์และได้ผลผลิตดี เนื่องด้วยพระบารมีของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทั้งนี้เชื่อว่าหลังจากเสร็จพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญแล้วจะมีฝนตกต้องตามฤดูกาล ซึ่งปีนี้สภาพฝนฟ้าดีตั้งแต่ต้นฤดู


อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงรัฐบาลให้ช่วยเหลือเรื่องราคาข้าวไม่ให้ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 15 บาท ถึงจะคุ้มทุน เพราะทั้งปุ๋ยและน้ำมันปรับขึ้นราคา ทำให้ชาวนาต้องแบกรับภาระต้นทุนในการทำนาที่สูงขึ้นด้วย

นายจำรัส วงค์ธรรม ผู้ใหญ่บ้านบ้านโคกใหม่พัฒนา ต.แสลงพัน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ครอบครัวมีอาชีพทำนาด้วย บอกว่า ชาวนาในหมู่บ้านส่วนใหญ่จะถือเอาฤกษ์วันพืชมงคลลงมือไถปรับพื้นที่นา เพื่อเตรียมหว่านกล้าเป็นประจำทุกปี เพราะเชื่อว่าเป็นวันดี และปีนี้ฝนฟ้าก็ค่อนข้างดีตั้งแต่ต้นฤดู ทั้งเชื่อว่าพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร จะทำให้พื้นที่นาที่ไถเตรียมดินไว้หว่านกล้าปีนี้เจริญงอกงาม อุดมสมบูรณ์ และได้ผลผลิตดีอย่างแน่นอน ซึ่งครอบครัวของตนเองทำนาทั้งหมด 50 ไร่ ก็จะไถปรับพื้นที่เตรียมดินไว้หว่านกล้าวันนี้ทั้งหมด


อย่างไรก็ตาม อยากฝากให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องราคาข้าว หากเป็นไปได้ก็อยากให้ราคาสูงตั้งแต่หลังเก็บเกี่ยว เพราะทุกปีหลังเก็บเกี่ยวเสร็จราคาข้าวค่อนข้างต่ำเหลือเพียงกิโลกรัมละ 8-9 บาทเท่านั้น แต่พอหลังจากเดือน มี.ค. ซึ่งเกษตรกรขายข้าวไปจ่ายค่าเก็บเกี่ยว ชำระหนี้ ธ.ก.ส.ไปเกือบหมดแล้ว ราคาข้าวถึงจะปรับขึ้น ซึ่งเกษตรกรก็ไม่มีข้าวในมือที่จะนำมาขายแล้ว จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องราคาข้าวด้วย และไม่ควรจะต่ำกว่ากิโลกรัมละ 14-15 บาท ถึงจะคุ้มทุน เพราะปีนี้ทั้งราคาปุ๋ย และน้ำมันปรับขึ้นจากเมื่อก่อนกว่าเท่าตัว


ขณะที่ จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรชาวนาในหลายพื้นที่ของจังหวัดสุรินทร์ถือฤกษ์ดีวันพืชมงคล และการเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูฝนลงแปลงนาไถนาหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ โดยเฉพาะ นายหัด กำลังมา อายุ 73 ปี เกษตรกรชาวบ้านตรม ม.7 ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์ ได้ว่าจ้างรถไถนาและคนหว่านข้าวลงมือไถนา-หว่านข้าวหอมมะลิ กข.105 ในแปลงนาที่เช่าทำจำนวน 36 ไร่ ที่อยู่ด้านหลังหมู่บ้านการเคหะแห่งชาติ ต.สลักได อ.เมืองสุรินทร์ โดยปีนี้พบว่าชาวนามีปัญหาอุปสรรคในเรื่องของน้ำที่ท่วมขังในแปลงนา เนื่องจากปีนี้ฝนมาเร็วกว่าทุกปี อีกทั้งค่าปุ๋ย ค่ายา ค่ารถไถนา มีการปรับขึ้นราคาด้วยตามราคาน้ำมัน ถือว่าการทำนาในปีนี้มีต้นทุนที่สูงมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ชาวนาได้แต่หวังว่าข้าวปีนี้จะเจริญงอกงามให้ผลิตเต็มเม็ดเต็มหน่วย และขายข้าวได้ราคาแพงเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา พอได้มีเงินใช้หนี้สินและเหลือไว้ส่งลูกเรียนหนังสือบ้าง


นายหัด กำลังมา บอกว่า ทำนาอยู่ 36 ไร่ ปีนี้มีปัญหาอุปสรรคในเรื่องของน้ำท่วมขังตามแปลงนา เนื่องจากฝนมาไวกว่าทุกปี เมล็ดพันธุ์ข้าวก็ขึ้นของขึ้นทุกอย่าง ทั้งค่ารถไถ ค่าปุ๋ยเมื่อก่อนกระสอบละ 700-800 บาท ทุกวันนี้กระสอบหนึ่งพันกว่าบาท ทำนาปีนี้ลำบาก ดีหน่อยปีนี้ไม่ได้ซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าว ใช้พันธุ์ข้าวของตนเองที่เก็บไว้เมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะได้ผลผลิตดีไหม ถ้าเจอฝนตกน้ำขังแบบนี้ข้าวคงไม่งอก จะต้องจ้างคนมาสูบน้ำออกก่อน ก็เป็นห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายอยู่ ทั้งค่ารถไถ ค่าปุ๋ย ค่าแรงงานขึ้นหมด ลงทุนค่าเช่านาไร่ละ 1 พันบาท ค่ารถไถเพิ่มขึ้นอีก 20 บาท จากไร่ละ 200 บาท เป็น 220 บาท ไถ 2 รอบ ก็หมื่นกว่าบาท ค่าจ้างหว่านไร่ละ 60 บาท ค่าปุ๋ยอีกใช้ประมาณ 20-30 กระสอบ ยังต้องเสี่ยงอีกว่าจะได้หรือไม่ได้ กว่าจะได้เก็บเกี่ยวผลผลิต

“อยากจะให้ข้าวมีราคารับซื้อสักกิโลกรัมละ 15-16 บาท ถ้ากิโลกรัมละ 11-12 บาทชาวนาขาดทุน แต่ที่ทำเพราะเป็นอาชีพของเราที่ทำมาเนิ่นนานแล้ว ปีที่ผ่านมาก็ขาดทุนเนื่องจากข้าวราคาถูกมาก เลยเก็บเอาไว้ทำเมล็ดพันธุ์ เผื่อจะช่วยลดต้นทุนการทำนาลงมาได้บ้าง” นายหัดกล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น