มหาสารคาม - พ่อเมายาบ้าแล้วคลุ้มคลั่งเรียกลูกชายลูกสาวยังเด็กออกมาตบหน้าบ้าน เพื่อนบ้านเห็นทนไม่ได้แอบถ่ายภาพโพสต์ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ ตำรวจรุดไปดูที่เกิดเหตุคุมตัวพ่อโหดไว้ได้ ด้านแม่เผยลูกชายเสพติดยาบ้ามาตั้งแต่อายุ 17 ไม่ยอมทำงานเป็นหลักแหล่ง เมียเพิ่งบอกเลิกเมื่อเดือน พ.ค.ปีที่แล้ว
จากกรณีมีการแชร์คลิปวิดีโอในเฟซบุ๊ก กลุ่มมหาสารคามช่วยกัน ระบุว่า ฝากหน่วยงานเข้ามาดูแลหน่อยครับ พิกัดหลังโรงเรียนบูรพา มันเป็นแบบนี้มาปีกว่าแล้ว นี่ผมถ่ายได้แค่บางส่วน เขาจะอาละวาด ด่าเสียงดัง หลอน ทุบบ้านทุบของทุบหอ ล่าสุดนี่คือตีลูกหลายครั้งมาก ถึงขั้นจะเอาเสาหินทับหัวเลย แม่ก็ทำอะไรไม่ได้ แม่เขาบอกว่าไม่มีเงินไปแจ้งตำรวจ ผมก็งง ว่าต้องใช้เงิน.... ฝากเข้ามาดูแลด้วยครับ คนแถวนี้เอือมระอา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ถือซะว่าสงสารเด็กครับ
พร้อมกันนี้ยังได้โพสต์คลิปวิดีโอชายคลุ้มคลั่งเหมือนคนกำลังเมายาบ้า พูดจาเสียงดัง เรียกลูกสาวมานั่งที่โต๊ะม้าหินหน้าบ้าน ก่อนจะลงมือตบหน้าลูก จากนั้นเรียกลูกชายออกมา แล้วก็ลงมือตบหน้าลูกชาย ซึ่งภายหลังจากที่คลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไปทำให้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น และแชร์โพสต์ออกไปกว่า 5,000 ครั้ง โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นวันนี้ (11 พ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.
ต่อมาเวลาประมาณ 10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม นำโดย พ.ต.ท.กฤษฎา นิติพจน์ รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่งานป้องกันและปราบปราม นำกำลังเข้าควบคุมตัวนายศุภสิทธิ์ ศิริพรรณ หรือโก้ อายุ 39 ปี ที่บ้านพักหลังโรงเรียนบูรพา เมื่อตำรวจไปถึงพอนายโก้เห็นเจ้าหน้าที่ก็ได้วิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ต้องวิ่งไล่ตาม ก่อนจะควบคุมตัวได้ แล้วนำไปที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม
โดยนายโก้มีอาการคล้ายเมายาบ้า กำลังดีด ถามอะไรไปตอบไม่รู้เรื่อง วกไปวนมา บางครั้งก็หัวเราะ บางครั้งก็เหมือนจะร้องไห้
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายโก้ว่าทำไมถึงทำร้ายร่างกายลูก นายโก้อ้างว่า ลูกออกไปไหนไม่รู้กับแม่ของตน เมื่อกลับมาจึงโมโห และลงมือตบหน้าลูก โดยได้เสพยามา 1 เม็ดเมื่อเช้านี้ เสพยามานานกว่า 10 ปีแล้ว ไม่ได้ทำงาน ส่วนยาบ้าพอมีเงินก็ไปหาซื้อมาเสพ ไปซื้อยาบ้ามาจากเพื่อนที่อำเภอบรบือ ปกติจะไม่ได้ตีลูก เพิ่งจะมาตีวันนี้ พอทำไปแล้วก็สงสารลูก แต่ที่ตีเพราะลูกออกไปข้างนอกไม่ยอมบอก
ด้าน พ.ต.ท.กฤษฎา นิติพจน์ รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม กล่าวว่า เบื้องต้นหลังจากที่ได้ทราบข่าวก็ได้นำกำลังเข้าไปควบคุมตัวนายโก้มาที่ สภ. พร้อมกับตรวจปัสสาวะก็พบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งนายโก้ยอมรับว่าได้เสพยาจริง ซึ่งจากการตรวจค้นในตัวก็พบว่ามียาบ้าอีกจำนวน 13 เม็ด อยู่ในกล่องพลาสติกสีดำ ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงของนายโก้
ซึ่งนายโก้ก็ได้ยอมรับว่าเป็นยาบ้าของตนจริง ซื้อมาจากอำเภอบรบือ 20 เม็ด ราคาเม็ดละ 25 บาท เสพไปแล้ว 7 เม็ด เหลือ 13 เม็ด ติดยาเสพติดมานานแล้ว ไม่ประสงค์เข้ารับการบำบัดฟื้นฟูฯ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่แม่ของนายโก้เล่าว่า ลูกชายติดยาเสพติดตั้งแต่อายุ 17 ปี ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง มีแต่มาขอเงินบอกว่าจะไปลงทุนทำนั่นทำนี่ ตนคิดว่าลูกชายจะไปประกอบอาชีพสุจริตก็เลยให้ไป ส่วนเรื่องที่ลูกชายทำร้ายหลานนั้น น่าจะเกิดจากที่ลูกชายเลิกกับเมียหรือแม่ของเด็กๆ ไปเมื่อเดือนพฤษภาคม ปีที่แล้ว จากนั้นก็พร่ำเพ้อหาตลอด ทั้งคู่อยู่กินกันมานาน 14 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน พอเลิกรากันก็เกิดอาการเครียด เสพยาจนไม่มีสติ เมื่อเช้านี้จึงได้ทำร้ายร่างกายลูกทั้ง 2 คน ตนได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมหลายครั้ง สุดท้ายก็กลับมาอาละวาดเหมือนเดิม อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปบำบัดให้หายดี กลับมาเป็นคนปกติอีกครั้ง เพราะสงสารหลาน
ด้านลูกสาวเล่าว่า เมื่อเช้าพ่อเรียกออกมาหน้าบ้านแล้วถามว่าย่าได้แอบไปหาแม่หรือเปล่า ตนกับน้องชายบอกว่าไม่ได้ไป พ่อไม่เชื่อจึงตบที่หัว ตนเจ็บและร้องไห้ พ่อเคยทำร้ายตนและน้องครั้งแรกตอนเลิกกันกับแม่ใหม่ๆ เคยเอาเชือกผูกที่คอ ส่วนน้องชายโดนขี่รถจักรยานยนต์ลาก ย่าบอกว่าพ่อทำประชดที่แม่เลิกราไป ปกติพ่อเป็นคนรักตนและน้องชายมาก วันไหนไม่เมา จะพาลูกร้องเพลง ดีดกีตาร์ มีวันนี้ที่พอเมาทำร้ายตนและน้องชาย และทำลายข้าวของ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพาพ่อไปรักษาให้หายขาด จะได้กลับมาเป็นครอบครัวสงบสุขเหมือนเดิม