เชียงราย - ซาบซึ้งและชื่นชมไปตามๆกัน..ชาวเชียงรายร่วมจัดกิจกรรม “กาดปั๋นสุข” นำเสื้อผ้าชุด นร.-รองเท้า-หนังสือเรียน รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ลูกหลานที่เรียนจบ-ขึ้นชั้น/ย้าย ร.ร. แบ่งปันส่งต่อให้รุ่นน้อง ลดภาระผู้ปกครองก่อนเปิดเทอม
วันนี้ (8 พ.ค. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงก่อนเปิดเทอมนี้พ่อแม่ผู้ปกครองต่างพากันหาซื้อเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายและของใช้ต่างๆ สำหรับให้ลูกหลานที่จะเปิดภาคเรียนในวันที่ 9 พ.ค.หรือบางแห่งเปิดวันที่ 17 พ.ค.นี้กันอย่างคึกคัก ซึ่งชุดนักเรียนระดับประถมศึกษาตามร้านค้าในตลาดสดเทศบาล 1 นครเชียงราย มีราคาชุดละประมาณ 150-250 บาท รองเท้ามีราคาคู่ละประมาณ 299-399 บาท ขณะที่ชุดประจำของโรงเรียนแต่ละแห่งจะมีราคาแพงกว่านี้เล็กน้อย เช่น เสื้อผ้าชุดพลศึกษาชุดละประมาณ 800 บาท ชุดพื้นเมืองชุดละประมาณ 450-500 บาท เป็นต้น
วันเดียวกันที่กลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครองที่ลูกเรียนจบ-ขึ้นชั้น/ย้ายโรงเรียน ได้นำเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและของใช้ต่างๆ ของลูกที่ยังคงมีสภาพดี รวมทั้งรวบรวมจากผู้ใจบุญ นำไปจัดกิจกรรมกาดปั๋นสุข ณ เชียงราย (แบ่งกั๋นใส่ แบ่งกั๋นใจ้) บริเวณลานสนามเด็กเล่น ฝูงบิน 416 (สนามบินเก่า) อ.เมืองเชียงราย
โดยนำสิ่งของต่างๆ วางเป็นหมวดหมู่ลักษณะคล้ายตลาดและเชิญชวนให้พ่อแม่ผู้ปกครองที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายเลือกหาไปให้ลูกหลานได้ฟรี ซึ่งพบว่ามีคนที่ทราบข่าวได้พาลูกหลานไปเลือกเสื้อผ้า รองเท้า และของใช้ต่างๆ กันอย่างคึกคักและซาบซึ้งในน้ำใจ
นางวาสนา บำเพ็ญอยู่ ผู้ริเริ่มโครงการฯ กล่าวว่า ตนเป็นคุณแม่ที่มีลูก 2 คน รู้ดีว่าพ่อแม่ผู้ปกครองต้องเตรียมพร้อมอย่างไรในช่วงที่จะเปิดภาคเรียน ขณะที่เด็กสมัยนี้ร่างกายเติบโตเร็วมาก เสื้อผ้า รองเท้า และของใช้ต่างๆ ต้องเปลี่ยนกันเร็ว พ่อแม่ต้องหาซื้อมาเปลี่ยนให้ ซึ่งแม้แต่ตนที่มีเงินเดือนประจำยังถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างหนัก หากเป็นผู้ที่มีรายได้น้อยหรือหาเช้ากินค่ำยิ่งลำบากมาก
ดังนั้นจึงได้รวบรวมของใช้ของเด็กๆ ที่มีสภาพดีแล้วนำมาแบ่งปันกับพ่อแม่ผู้ปกครองในช่วงก่อนเปิดเทอม ด้วยความเต็มใจไม่หวังสิ่งตอบแทนและรู้สึกสบายใจที่มีผู้รับ ทั้งนี้ ตนอยากให้การจัดกิจกรรมลักษณะนี้เป็นต้นแบบให้พ่อแม่ผู้ปกครองที่มีของเหลือจากลูกหลานตัวเองได้นำมาบริจาคในทุกๆ อำเภอ เพื่อแบ่งเบาภาระให้แก่กันต่อไป
ด้านนางจุฑารัตน์ ดวงดีภิรบรรณ์ กล่าวว่าตนได้นำชุดนักเรียนของลูกชายและลูกสาวรวมประมาณ 5-6 ชุด รองเท้าและอื่นๆ มาร่วมบริจาคเป็นครั้งแรก ซึ่งรู้สึกดีอย่างมากเพราะเข้าใจถึงหัวอกคนเป็นพ่อแม่ผู้ปกครองดี รวมทั้งหากเก็บสิ่งเหล่านี้เอาไว้ก็ไม่มีประโยชน์เพราะแต่ละคนก็โตขึ้นกันหมด การนำมาช่วยเหลือคนอื่นในการลดค่าใช้จ่ายจึงเป็นเรื่องที่ดีอย่างมาก