เชียงใหม่ - จังหวัดเชียงใหม่จับมือหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานในจังหวัดเชียงใหม่ เร่งหาทางช่วยเหลือสถานประกอบการร้านค้าและลูกจ้างกรณีศูนย์การค้าดัง “พรอมเมนาดา” ประกาศปิดบริการกะทันหันโดยไม่แจ้งล่วงหน้า
บ่ายวันนี้ (6 พ.ค. 65) ที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดเชียงใหม่ นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงาน ร่วมชี้แจงกรณี บริษัท อีซีซี เชียงใหม่ โครงการ 1 จำกัด ออกหนังสือแจ้งร้านค้าภายในศูนย์การค้าพรอมเมนาดา เชียงใหม่ ทุกร้าน ว่าบริษัท อีซีซี เชียงใหม่ โครงการ 1 จำกัด มีความจำเป็นต้องปิดศูนย์การค้าพรอมเมนาดา เชียงใหม่ เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะได้รับเงินลงทุนจากนักลงทุน เนื่องจากศูนย์การค้าฯ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายต่อไปได้นั้น
โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม จากนายโจเวลเพร์ท ลิมาลิมา ชาวสัญชาติฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน ทราบว่าขณะนี้ลูกจ้างของบริษัท อีซีซี เชียงใหม่ โครงการ 1 จำกัด รวม 42 คน ยังคงให้ทำงานตามปกติ ไม่มีการเลิกจ้าง โดยมีพนักงานบางส่วน Work From Home และจ่ายค่าจ้างตามปกติ ในส่วนของร้านค้า 90-100 ร้าน ซึ่งมีลูกจ้างรวมกันประมาณ 200-300 คนนั้น นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบหมายให้หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานดูแลและให้การช่วยเหลือในทุกมิติอย่างเต็มที่ แต่ในขณะนี้ยังไม่ได้รับการร้องขอจากผู้ประกอบการและแรงงานแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม สำหรับร้านค้าที่มีสำนักงานใหญ่ หรือร้านค้าสาขาอื่นๆ อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการโยกย้ายพนักงานไปทำงานอยู่ที่สาขาอื่นๆ เพื่อลดผลกระทบจากการปิดศูนย์การค้าฯ ทั้งนี้ หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานจะได้นัดหมายร้านค้าเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ต่อไป
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่มีความห่วงใยและจะเข้าไปช่วยเหลือ นายจ้างลูกจ้างที่ประสบปัญหา เนื่องจากเข้าใจว่าผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจจำเป็นต้องแสวงหาแนวทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้ธุรกิจไปต่อได้ ทั้งนี้เชื่อว่าอาคารสิ่งปลูกสร้างของศูนย์การค้ามีมูลค่ามหาศาล บริษัทเจ้าของกิจการคงไม่ปล่อยให้ทิ้งร้าง แต่การจะดำเนินธุรกิจต่อไปเมื่อไหร่นั้นต้องติดตามดูต่อไป ในส่วนของค่าไฟที่ค้างอยู่นั้น ทางบริษัทก็ต้องรับผิดชอบ หากค้างชำระจริงก็ต้องถูกตัดไฟ และหาเงินมาชำระหนี้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ในส่วนของพนักงานลูกจ้าง ขณะนี้ยังไม่ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือใดๆ เพราะศูนย์การค้ายังไม่มีการเลิกจ้างงานพนักงานที่มีอยู่ 42 ชีวิต ยังคงให้ทำงานที่บ้านแบบ Work from home ในส่วนสถานประกอบการร้านค้าต่างๆ ที่มีอยู่ประมาณ 100 ร้าน มีพนักงานประมาณ 200-300 ราย ทางสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชียงใหม่จะเข้าไปพบกับผู้ประกอบการเพื่อสอบถามข้อมูลและเร่งแก้ไขปัญหาต่อไป