ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ทั้งอยู่ในช่วงหน้าแล้งและต้นทุนน้ำมันดีเซลใช้ขนส่งเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ราคาผักในตลาดปรับขึ้นอีก ล่าสุดผักชีราคาทะลุกิโลกรัมละ 100 บาทจากก่อนนี้แค่ 40 บาท/กิโลฯ, แตงกวาถุงละ 250 บาท, พริกกิโลฯ ละ 80 บาท ถั่วฝักยาวกิโลฯ ละ 60 บาท วอนรัฐคุมราคาน้ำมันดีเซลลดภาระค่าครองชีพประชาชน
หลังจากราคาน้ำมันดีเซลลอยตัวตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา บรรดาพ่อค้าแม่ค้ารวมถึงผู้บริโภคต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าค่าครองชีพจากเดิมสูงอยู่แล้วได้ขยับเพิ่มสูงขึ้นอีก โดยล่าสุดพบว่าราคาพืชผักในตลาดสดบางลำภู เขตเทศบาลนครขอนแก่นได้ปรับเพิ่มขึ้นแทบทุกชนิดมาก
นางสุพรรณณี ภูสีน้ำ อายุ 64 ปี แม่ค้าขายผักสดภายในตลาดสดบางลำภู เขตเทศบาลนครขอนแก่น บอกว่า ผักที่มีการปรับขึ้นราคาในระยะนี้ก็จะมี พริกแดงจินดา, ถั่วฝักยาว, แตงกวา และผักชี โดยเฉพาะผักชีที่มีการปรับราคาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยก่อนหน้านี้ราคากิโลกรัมละ 40 บาท ราคาวันนี้ขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 100 บาท, แตงกวา เดิมถุงละ 120 บาทต่อ 10 กิโลกรัม ขึ้นเป็นถุงละ 250 บาทต่อ 10 กิโลกรัม, พริกแดงจินดา กิโลกรัมละ 50 บาท ขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 80 บาท, ถั่วฝักยาว เดิมกิโลกรัมละ 30 บาท ขึ้นเป็น กิโลกรัมละ 60 บาท
ในการปรับขึ้นราคานั้นเริ่มมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูแล้ง ผักปลูกยาก เติบโตไม่เต็มที่ แต่คนยังต้องการบริโภคในปริมาณเท่าเดิม ทำให้ราคาเริ่มขยับเพิ่ม นอกจากนี้ยังมีเรื่องของราคาน้ำมันดีเซลที่ถูกปล่อยให้ลอยตัว ทำให้ต้นทุนการขนส่งเพิ่ม จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ราคาเริ่มขยับตัวขึ้นในช่วงนี้
นางสุพรรณีกล่าวต่ออีกว่า ราคาผักไม่ได้ขึ้นตลอด เพราะมีทั้งช่วงถูกช่วงแพงตามฤดูกาล จึงอยากให้รัฐบาลควบคุมราคาน้ำมันให้ได้เพราะทุกอย่างเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเมื่อต้นทุนเพิ่มขึ้น ภาระทุกอย่างจะมาตกแก่ประชาชน ที่จะต้องซื้อของในราคาแพงขึ้นเกือบทุกอย่างอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้