สุรินทร์ - เจ้าหน้าที่ กสทช.รุดตรวจสอบสายสื่อสารหย่อนขวางถนนเกี่ยวคอหนุ่มพ่อลูกสามเมืองช้าง จยย.ล้มเสียชีวิต ขณะงานศพเศร้าสลดลูกน้อย 3 คนไร้ที่พึ่งและแม่อายุมากอีก 1 คน เมียยังทำใจไม่ได้เตรียมฟ้องร้องบริษัทสายสื่อสารถึงที่สุด ตร.เร่งรวบรวมหลักฐานดำเนินคดี
วันนี้ (30 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีสายสื่อสารหย่อนขวางถนนเกี่ยวคอผู้ขับขี่จักรยานยนต์ล้ม เป็นเหตุให้ นายบุญเกิด พรมวัฒน์ อายุ 40 ปี ที่บ้านเลขที่ 59 บ.โคกครุฑ ต.ลำดวน อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ ได้รับบาดเจ็บสาหัสศีรษะฟาดพื้น กะโหลกร้าว เลือดคั่งในสมอง และต่อมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เหตุเกิดบนถนนสายสุรินทร์-ลำดวน บริเวณหน้าโรงพยาบาลลำดวน เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 28 เม.ย. 65 ขณะที่ นางพรธิรา พรมวัฒน์ อายุ 42 ปี ภรรยาทำใจรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและผู้ตายมีลูกน้อย 3 คนต้องเลี้ยงดู ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดญาติได้ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ นายบุญเกิด พรมวัฒน์ อายุ 40 ปี ที่บ้านเลขที่ 59 บ.โคกครุฑ ต.ลำดวน อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างโศกเศร้า มีญาติพี่น้อง เพื่อนบ้านและเพื่อนฝูง ทยอยเดินทางมาเคารพศพแสดงความอาลัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมช่วยกันจัดสถานที่ภายในงานศพเพื่อเตรียมรับแขก ซึ่งทางครอบครัวมีกำหนดการประกอบพิธีฌาปนกิจศพ นายบุญเกิด พรมวัฒน์ ในวันพุธที่ 4 พ.ค. 65 ที่วัดสุวรรณรัตน์โพธิยาราม ต.ลำดวน อ.ลำดวน
สำหรับนายบุญเกิด พรมวัฒน์ มีบุตรกับนางพรธิรา พรมวัฒน์ ภรรยา รวม 3 คน คือ ลูกคนโต ชื่อ นายนันทวิชญ์ พรมวัฒน์ อายุ 16 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.4 ร.ร.สุรพินท์วิทยา อ.ลำดวน, คนที่ 2 ชื่อ ด.ช.วรวิชญ์ พรมวัฒน์ อายุ 14 ปี อยู่ชั้น ม.2 ร.ร.กระเทียมวิทยา ต.กระเทียม อ.สังขะ และคนที่ 3 ด.ญ.กนกวรรณ พรมวัฒน์ อายุ 10 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.4 ร.ร.อนุบาลลำดวน สุรพินท์วิทยา ซึ่งผู้ตายเป็นหัวหน้าครอบครัว มีอาชีพขับรถตู้รับเหมานำเที่ยวและรับจ้างทั่วไป นำรายได้มาเลี้ยงครอบครัวและส่งเสียลูกเรียนหนังสือ อีกทั้งต้องดูแลแม่ที่มีอายุมากแล้วอีก 1 คน เมื่อครอบครัวมาสิ้นเสาหลักในครั้งนี้ ทำให้อนาคตครอบครัวพรมวัฒน์มืดมน ลูกๆ ที่ล้วนอยู่ในวัยเล่าเรียนต้องไร้ที่พึ่ง
ขณะที่ นายจิรพงษ์ วรรณสุทธิ์ เจ้าหน้าที่สำนักงาน กสตช.เขต 22 อุบลราชานี ได้เดินทางมาพบ ร.ต.อ.กฤติพงษ์ หงส์สูง รองสารวัตรสอบสวน.สภ.ลำดวน ร้อยเวรเจ้าของคดี เพื่อทำหนังสือขอสายสื่อสารของกลางจากตำรวจไปเพื่อพิสูจน์ทราบและยืนยันร่วมกันว่าสายดังกล่าวเป็นสายสื่อสารของบริษัทใด ซึ่งจะได้เรียกบริษัทดังกล่าวเข้ามารับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดสุรินทร์ได้ลงพื้นที่มาพบครอบครัวผู้ตายเพื่อแนะนำขั้นตอนหลักเกณฑ์และวิธีการรวบรวมเอกสารเพื่อยื่นขอรับเงินเยียวยาตามกฎหมาย ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.ลำดวน ได้ปีนขึ้นตรวจสอบจุดที่สายสื่อสารขาดเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม และตรวจสอบว่าสายดังกล่าวพาดผ่านมายังจุดใดไปยังจุดใดจึงเกิดอุบัติเหตุ
นางพรธิรา พรมวัฒน์ ภรรยาของผู้ตาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหันเกินที่จะทำใจได้ ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าสายสื่อสารดังกล่าวเป็นของบริษัทใด แต่หลักฐานเราเก็บไว้หมดแล้ว ฝากถึงบริษัทสายเหล่านี้ให้เก็บสายให้เรียบร้อยดีกว่านี้เพราะอันตรายมาก ทุกเส้นทางทุกถนนมีแต่สายแบบนี้ห้อยอยู่เต็มไปหมด ไม่รู้จะแก้ไขปัญหาแบบนี้ได้ยังไง เราต้องสูญเสียที่พึ่ง ผู้นำครอบครัวคนสำคัญไป กับสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นจากความมักง่ายของบริษัทสายสื่อสาร สามีทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว แม่เขาก็มีลูกชายคนเดียวที่ช่วยดูแลทั้งบ้าน สามียังต้องดูแลลูกอีก 3 คนที่อยู่ในวัยเรียน มันเร็วเกินไปทำอะไรไม่ถูกเลย ตอนแรกคิดว่าขับรถล้มธรรมดา พอมาเห็นสภาพตนก็รับไม่ได้ ที่คอมีรอยสายสื่อสารรัดอย่างชัดเจน น่าจะทรมานมาก กะโหลกร้าวเลือดคั่งในสมอง ไม่มีโอกาสได้ร่ำลากันแม้สักคำเดียว
อยากให้บริษัทสายสื่อสารออกมารับผิดชอบและเตรียมฟ้องร้องให้ถึงที่สุด เพราะเรามีกันอยู่แค่นี้ ไหนค่าใช้จ่ายลูกเรียนหนังสือ ไหนจะค่าบ้านที่ผ่อนอยู่อีกหลัง ไม่มีใครหารายได้มาดูแลครอบครัว เขามีรายได้มาจากการขับรถตู้ทางเดียว ลูกค้ากำลังเยอะ วิ่งแทบไม่มีวันว่าง วันเกิดเหตุเขาเพิ่งกลับมาจากเกาะช้าง จ.ตราด หลังจากนี้ยังคิดไม่ออกว่าจะทำยังไง ลูกกำลังเรียน หนี้สินก็มี แม่สามีต้องดูแล อย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับใครอีก ขอให้เป็นกรณีสุดท้ายเกี่ยวกับสายเคเบิลสื่อสารเหล่านี้
นายจิรพงษ์ วรรณสุทธิ์ เจ้าหน้าที่สำนักงาน กสทช.เขต 22 อุบลราชธานี กล่าวว่า มาพิสูจน์ทราบสายสื่อสารที่เกิดเหตุเพื่อเป็นข้อมูลให้พนักงานสอบสวน ใช้ในการเรียกเจ้าของสายมารับผิดชอบเยียวยาต่อไป ซึ่งยังไม่ทราบชื่อบริษัทเจ้าของสายสื่อสาร ต้องนำไปตรวจสอบก่อน ซึ่งทาง สนง.กสทช.เขต 22 อุบลราชธานี มีอำนาจหน้าที่ดูแลสายสื่อสารต่างๆ ให้เรียบร้อยร่วมกับการไฟฟ้าฯ และผู้ประกอบการ แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมทั่วถึง