ท่าขี้เหล็ก – หนุ่มจีนทะเลาะกันกลางคาราโอเกะเครือข่ายว้าในท่าขี้เหล็ก ลามจนได้เรื่อง..หลังฝ่ายหนึ่งตามการ์ดมาช่วยเจอกองกำลังว้าติดอาวุธไล่ตีโต้ ก่อน จนท.เมียนมา บุกค้นถึงรังเจอยาบ้าถึง 8,000,000 เม็ด แถมมีเครื่องตอกพร้อมสรรพ ขยายผลจับผู้ต้องสงสัยทั้งพม่า-จีน-ไทย เกือบครึ่งร้อย
วันนี้ (17 เม.ย.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ได้จับกุมคนกลุ่มใหญ่รวมถึง 47 คน เป็นชาวเมียนมา 45 คน ชาวจีน 1 คน และชาวไทย 1 คนเบื้องต้นทราบว่าเป็นชาว จ.อ่างทอง พร้อมของกลางยาบ้าและอาวุธได้เป็นจำนวนมาก
การควบคุมตัวและยึดของกลางมีขึ้น หลังเกิดเหตุชาวจีน 2 คน ซึ่งเป็นเพื่อนกันไปเที่ยวที่ร้านคาราโอเกะ Harry potter (KTV) ที่ตั้งอยู่กลางใจเมืองท่าขี้เหล็ก ทะเลาะกันขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา
ต่อมาหนึ่งในคนจีนดังกล่าวได้รู้จักมักคุ้นกับนายหาน เจ้าของบริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชนในท่าขี้เหล็ก จึงได้ขอความช่วยเหลือจากนายหาน แต่ขณะที่นายหานกำลังนำขบวนไปช่วยเหลือ ก็พบว่าหนุ่มจีนที่เป็นคู่กรณีกลับรู้จักกับเจ้าของร้านคาราโอเกะดังกล่าว ซึ่งเป็นกิจการเครือข่ายกลุ่มว้า UWSP/UWSA และ NDAA จึงทำให้แต่ละฝ่ายนำกำลังเข้าเผชิญหน้ากัน แต่ของกลุ่มว้าเป็นกองกำลังติดอาวุธแบบทหารกว่า 10 นาย ทำให้กลุ่มของนายหานถูกจับกุมได้ในที่สุด
หลังจากนั้นกลุ่มทหารว้าได้นำกำลังบุกไปที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่บ้านเวียงแก้ว จ.ท่าขี้เหล็ก เมื่อเข้าไปตรวจสอบพบเป็นที่ตั้งบริษัทของนายหาน แต่มีนายอาเผะชาวอาข่าเป็นเจ้าของที่ดิน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ทางการเมียนมา ซึ่งมีทั้งทหารจาก บก.ยุทธศาสตร์ท่าขี้เหล็ก ตำรวจ และตำรวจปราบปรามยาเสพติดที่ 30 ได้เข้าประสานกับทหารว้าให้ถอนกำลังออก เพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์แทน
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่เมียนมา ได้เข้าไปตรวจสอบในบ้าน พบยาบ้าจำนวน 8,000,000 เม็ด ซึ่งที่ห่อไม่มีการพิมพ์ตราประทับว่าเป็นของกลุ่มใด แต่คาดว่าเป็นของกลุ่มกองกำลังติดอาวุธในพื้นที่ จ.เมืองสาด ที่อยู่ทางทิศตะวันตกของ จ.ท่าขี้เหล็ก เครื่องตอกเม็ดยาบ้า 1 เครื่อง และอาวุธปืนยาว 2 กระบอก ปืนพกสั้นลูกโม่ 2 บอก ปืนพกสั้น 9 มม.2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนและอุปกรณ์ จึงได้ยึดไว้เป็นของกลางและขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งนายหาน ชาวจีนที่หลบหนี ฯลฯ ได้จำนวน 47 คนดังกล่าว
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่เมียนมาเบื้องต้นทราบว่าบริษัทรักษาความปลอดภัยของนายหานดังกล่าวมีการฝึกพนักงานและส่งไปรับจ้างเป็นการ์ดดูแลตามกิจการต่างๆ เช่น ร้านจำหน่ายทองคำรูปพรรณ สถานบันเทิงประเภทผับบาร์ของกลุ่มอาข่าและชาวลาหู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก
อย่างไรก็ตามนายหานปฏิเสธว่าไม่ได้รู้เห็นกับยาเสพติดดังกล่าว แต่รับสารภาพว่าอาวุธปืนเป็นของตนจริงและการทำธุรกิจรักษาความปลอดภัยดังกล่าวมีคนไทยเป็นผู้ลงทุนให้
ล่าสุดเจ้าหน้าที่เมียนมายังอยู่ระหว่างขยายผลทางคดีและยังไม่ได้ตั้งข้อหาต่อนายหานและคนอื่นๆ.