อุทัยธานี – ระทมกันทั้งเกษตรกรรากหญ้า-ผู้ประกอบร้านค้าปุ๋ยเคมี/ผลิตภัณฑ์การเกษตร..หลังปุ๋ยยูเรียราคาพุ่งต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี สวนทางราคาข้าวที่ยังดิ่งเหว ร้านขายปุ๋ยบางแห่งถึงขั้นต้องแยกชั่งกิโลฯขาย-ชาวนาต้องลดปริมาณซื้อ บอกคงต้องหว่านปุ๋ยพอให้ข้าวรอดแค่นั้น
วันนี้(26 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจราคาปุ๋ยยูเรีย ที่เกษตรกรจำเป็นใช้หว่านบำรุงนาข้าว-พืชผลทางการเกษตร ตามร้ายจำหน่ายปุ๋ย-อุปกรณ์การเกษตร หลายแห่ง พบว่าราคาปุ๋ยปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลกระทบทั้งผู้ประกอบการ และเกษตรกร
ซึ่งราคาปุ๋ยยูเรียทุกสูตรที่ขายตามหน้าร้านเขตเทศบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี พบว่า เริ่มปรับขึ้นมาเรื่อยๆตั้งแต่เดือนมกราคม จนถึงเดือนเมษายน 65 รวมระยะเวลาเพียงไม่ถึง 4 เดือนมานี้ ราคาปุ๋ยยูเรีย กระสอบละ 50 กิโลกรัม มีการปรับราคาขึ้นไปสูงมากเกือบเท่าตัว โดยปุ๋ยยูเรีย สูตร 46-0-0 ปัจจุบัน ขายลูกละ 1,700 จาก 630 บาท สูตร 16-16-16 ลูกละ 1,980 บาท จาก 880 บาท สูตร 15-15-15 ลูกละ 1,500 จาก 720 บาท สูตร 8-24-24 ลูกละ 2,380 จาก 1,280 บาท
สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้เกษตรกรต้องแบกรับต้นทุนในการทำนาปลูกข้าวเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ราคาขายข้าวเปลือกกลับต่ำลง อีกทั้งราคาปุ๋ยยูเรียที่ปรับสูงขึ้นระลอกนี้ ยังส่งผลกระทบต่อร้านค้าที่จำหน่ายปุ๋ยด้วยเช่นกัน เพราะราคาปุ๋ยที่พุ่งสูงขึ้นยอดขายก็ลดลงตามไปมาก ทำให้ร้านขายปุ๋ยบางแห่งถึงกับต้องชั่งกิโลฯปุ๋ยยูเรียทุกสูตร ขายถุงละ 1 กิโลกรัม เพื่อให้การซื้อขายปุ๋ยยูเรียยังคงเดินหน้าต่อไปได้
นายสงกรานต์ พันธุเมฆ เจ้าของร้านขายปุ๋ย ไทยนิมิต 2 เล่าว่า ราคาปุ๋ยยูเรียปรับสูงขึ้นมากต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมกราคม มาจนถึงเดือนเมษายน รวมแล้วสูงขึ้นมาเป็นเท่าตัว ทำให้ยอดขายพลอยลดลงตามไปด้วย เพราะเกษตรกรไม่มีกำลังซื้อ อีกทั้งราคาข้าวเปลือกที่ขายได้ในตอนนี้ก็ยังมีราคาแค่เพียง 7,000 บาทเท่านั้น
“ตั้งแต่ขายปุ๋ยมากว่า 19 ปี นี่เป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ที่ผ่านช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งครั้งที่ผ่านมา ที่ราคาปุ๋ยปรับสูงขึ้นมามากขนาดนี้ ซึ่งตอนนี้ทางร้านต้องปรับตัว หาวิธีขายปุ๋ยยูเรียทุกสูตรแบบแยกใส่ถุงชั่งกิโลขาย ถุงละ 1 กิโลกรัมๆละ 40 บาท เพื่อให้ลูกค้าพอมีกำลังซื้อได้ง่ายขึ้น”
ด้านเกษตรกรรายหนึ่งที่เดินทางมาซื้อปุ๋ย เล่าว่า ทำนาครั้งหนึ่ง ต้องซื้อปุ๋ยหว่านถึง 3 รอบ ซึ่งตอนนี้ปุ๋ยขึ้นราคาไปสูงมากจริงๆ แต่เลิกซื้อปุ๋ยหว่านไม่ได้ เพราะถ้าไม่หว่านปุ๋ยบำรุง ข้าวก็ไม่ออกรวงดีเท่าทีควร อีกทั้งราคาข้าวเปลือกก็ยังต่ำลงมาก ตอนนี้ที่ทำได้ก็แค่ลดปริมาณปุ๋ยหว่านลง เพื่อให้ข้าวในนาให้ผลผลิตพอให้อยู่ได้บ้าง