พิษณุโลก – ชาวบ้านกร่าง เมืองสองแคว ลุกฮืออีกรอบ..ต้าน อบต.ปลุกผีโรงไฟฟ้าขยะ 1,800 ล้าน ชี้เหมือนงุบงิบทำประชาคม ระบุประชากร 6 หมู่บ้าน เกือบ 6,700 คน ออกแบบสอบถามแค่ 460 คน แถมแจ้งวันนี้-รุ่งขึ้นสรุปผลเฉย
วันนี้( 25 เม.ย.65) นายจรวย ดีแล้ว สจ.เขต อ.เมืองพิษณุโลก-แกนนำกลุ่มอนุรักษ์บ้านกร่าง พร้อมชาวบ้านกร่าง กว่า 100 คน ได้รวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เพื่อขอคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ 9.9 เมกะวัตต์ เนื่องจากหวั่นชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบทางด้านต่างๆ ของโรงไฟฟ้าขยะ รวมทั้งเห็นว่ามีการงุบงิบทำประชาพิจารณ์แบบไม่โปร่งใส
ทั้งนี้องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก มีโครงการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าระบบปิด ตามโครงการบริหารและจัดการขยะมูลฝอยชุมชนเป็นพลังงานไฟฟ้าระบบปิด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ ในพื้นหมู่ที่ 6 ต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งดำเนินการในลักษณะร่วมทุน โดย อบต.บ้านกร่าง เป็นผู้ดำเนินโครงการแล้วให้เอกชนที่เข้ามาเป็นผู้ลงทุน
โดยมีการประชุมรับฟังความคิดเห็น และประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา ระบุว่าเป็นโครงการจัดการขยะเป็นพลังงานไฟฟ้าระบบปิด ซึ่งช่วงนั้นประชาชนในพื้นที่ของกลุ่มอนุรักษ์บ้านกร่างก็คัดค้าน รวมทั้งเคยยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัด-แม่ทัพภาคที่ 3 และคิดว่าโครงการนี้จบไปแล้ว จะไม่เกิดขึ้นอีก
ต่อมาวันที่ 16 ธันวาคม 2564 อบต.บ้านกร่าง กลับมีประกาศเรื่องการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับโครงการกำจัดขยะมูลฝอย เพื่อผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยแจกแบบสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่อยู่ในพื้นที่รัศมี 3 กิโลเมตร รวมได้ 6 หมู่บ้าน ให้ตอบแบบสอบถามเป็นรายบุคคล ซึ่งการดำเนินงานของโครงการเป็นไปอย่างเร่งด่วน อ้างว่าเป็นภารกิจของภาครัฐในการดำเนินการกำจัดขยะมูลฝอยตามหนังสือของกระทรวงมหาดไทย
ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยว่า อบต.บ้านกร่าง ออกหนังสือถึงผู้ใหญ่บ้าน ประกาศ เรื่องการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับโครงการกำจัดขยะมูลฝอย ในวันที่ 16 ธันวาคม 2564 แต่มีการสรุปผลรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ในวันที่ 17 ธันวาคม 2564
นอกจากนี้จำนวนประชากร หมู่ 4,5,6,7,9,10 มีทั้งหมดเกือบ 6,700 คน แต่มีการออกแบบสอบรับฟังความคิดเห็นเฉพาะบางกลุ่ม บางหมู่บ้านเท่านั้น โดยมีตารางชี้แจงว่าจากการสรุปแบบสอบถามทั้งหมด 6 หมู่ รวมได้ 460 คน มีผู้เห็นด้วยกับโครงการ 456 คน ไม่เห็นด้วย 4 คน แต่เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรแล้วนั้นยังไม่ถึงครึ่ง คนส่วนใหญ่ไม่ได้รับแบบสอบถาม-ไม่ได้รับแจ้งข้อมูลข่าวสารจาก อบต.บ้านกร่าง
ทั้งที่โครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่ ตามข้อมูลที่เผยแพร่เว็บไซ์ อบต.บ้านกร่าง จะมีการลงทุนมหาศาลถึง 1,800 ล้านบาท จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ประชาชนควรจะต้องได้รับรู้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง-ข้อดีข้อเสีย ผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมลพิษทางอากาศทางน้ำ กลิ่นเหม็น แมลงวัน สารเคมีปนเปื้อน ควันจากการเผาไหม้ รถบรรทุกขยะที่ต้องลำเรียงเข้ามาสู่โรงงานขนาด 9.9 เมกะวัตต์ การจราจร และปัญหาอื่นๆที่จะส่งผลต่อสังคมส่วนรวมอีกมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต.บ้านกร่าง เป็นที่ตั้งสถาบันการศึกษาที่สำคัญทั้งระดับอุดมศึกษา มัธยมศึกษา และประถมศึกษา ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พิษณุโลก , โรงเรียนบ้านกร่างวิทยาคม โรงเรียนบ้านกร่าง(พระขาวชัยสิทธิ์) , โรงเรียนวัดธรรมเกษตร (เกษตรานุเคราะห์) , โรงเรียนวัดแหลมโพธิ์ และโรงเรียนบ้านแม่ระหัน นอกจากนั้นยังมีวัดวา อาราม ที่ใช้บำเพ็ญศาสนกิจทางศาสนา จำนวน 8 วัด อาทิ วัดพระชาวชัยสิทธิ์ วัดเด่นโบสถ์โพธิ์งาม วัดนิมิตธรรมาราม วัดธรรมเกษตร วัดป่าเลไลย์ วัดเกาะแหลมโพธิ์ วัดพระยายมราช และวัดแม่ระหัน
กลุ่มผู้ร่วมคัดค้านโครงการนี้ระบุว่า ชาวบ้านกร่างส่วนใหญ่กำลังวิพากษ์วิจารณ์และมีข้อสงสัยว่าการออกแบบสอบถามรับฟังความคิดเห็นเมื่อ 16 ธันวาคม 2564 เกิดขึ้นอย่างรวบรัด เรื่องใหญ่ที่มีความสำคัญกับชุมชนและสังคมส่วนรวม แต่ประชาชนไม่ได้ทราบข่าวสารอย่างทั่วถึงโปร่งใส มีคนรับทราบข่าวสารเฉพาะบางกลุ่ม บางราย จึงเกิดเสียงคัดค้านและต่อต้านคล้ายกับปกปิดเอกสารข้อมูล และมีความไม่ชอบมาพากล
ดังนั้นกลุ่มอนุรักษ์บ้านกร่างจึงขอคัดค้านการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าจากพลังงานขยะดังกล่าว เพราะเห็นว่าการดำเนินการไม่เป็นไปด้วยความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล และมีความไม่ถูกต้อง เรียกร้องให้ผู้มีอำนาจ พิจารณายับยั้งโครงการดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อีก จนกว่าการดำเนินการจะเป็นไปอย่างสมบูรณ์ครบถ้วนถูกต้องโปร่งใส ตามขั้นตอนของการทำประชาพิจารณ์
ต่อมา นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้รับหนังสือคัดค้านจากกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมรับว่าจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นต่อไป ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมพึงพอใจก่อนจะแยกย้ายกันกลับไปในที่สุดแต่จะขอรอคำตอบที่ชัดเจนภายใน 15 วัน