ตราด - ผู้ประกอบการท่องเที่ยวตราด ขานรับมาตรการคลายล็อกด้านการท่องเที่ยว 1 พ.ค.นี้ เชื่อปลายปีท่องเที่ยวตราดบูม เผยช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา จ.ตราด มีรายได้จากการท่องเที่ยวแล้วกว่า 450 ล้านบาท
ภายหลังจากที่รัฐบาล และ ศบค.ได้ประกาศมาตรการคลายล็อกด้านการท่องเที่ยว พร้อมปรับระดับพื้นที่ควบคุมโรคระบาดโควิด-19 รองรับการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ออกมาขานรับโยบายดังกล่าว และต่างแสดงความเห็นในทิศทางเดียวกันว่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศนั้น
วันนี้ (24 เม.ย.) น.ส.วรรัตน์ โชติวรรณ เจ้าของโรงแรมตราดซิตี้ ซึ่งตั้งอยู่ในเขต อ.เมืองตราด ในฐานะเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ตราด ได้แสดงความเห็นว่ามาตรการผ่อนคลายด้านการเดินทางเข้าประเทศที่สะดวกมากขึ้นจะกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย
โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวใน 3 เกาะหลักของ จ.ตราด ประกอบด้วย เกาะช้าง เกาะหมากและเกาะกูด ซึ่งถือเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และเชื่อว่าในช่วงปลายปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรปหนีหนาวเข้ามาพักผ่อนเป็นจำนวนมาก
“แต่ต้องยอมรับว่าพื้นที่บนฝั่งยังต้องรอให้รัฐบาล และ ศบค.ผ่อนคลายให้ร้านอาหารที่สามารถเปิดเล่นดนตรีได้เพราะธุรกิจบนฝั่งเป็นธุรกิจของคนกลางคืน ซึ่งขณะนี้นักดนตรีตกงานจำนวนมาก”
อย่างไรก็ตาม เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ตราด เชื่อว่ามาตรการผ่อนคลายต่างๆ ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 พ.ค.นี้จะทำให้ธุรกิจส่วนใหญ่ก้าวเดินต่อไปและสามารถฟื้นฟูรายได้ให้กลับมาอีกครั้งแม้จะยังไม่เหมือนช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ตาม
และยังบอกอีกว่าในช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ยอดจองห้องพักในโรงแรมเขตตัวเมืองตราด ซึ่งมีโรงแรมขนาดใหญ่มากกว่า 10 แห่ง เต็มตลอดช่วง 3-4 วัน เช่นเดียวกับ อ.คลองใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าพักไม่น้อยกว่า 10,000 คน
ด้าน นายสัคศิษฎ์ มุ่งการ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ตราด เผยว่า จากข้อมูลของสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬา จ.ตราด พบว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าพักผ่อนใน 3 เกาะหลักของ จ.ตราด ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมามีมากกว่า 40,000 คน สร้างรายได้ให้พื้นที่มากถึง 384 ล้านบาท โดยมียอดการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนประมาณ 2,400 บาทต่อวัน
แม้จำนวนการเข้าพักเฉลี่ยต่อคนในช่วงหยุดยาว 12-17 เม.ย. จะลดลงกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ถือว่ามากกว่าปี 2564 ที่ผ่านมา เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังเป็นชาวไทย
ส่วนตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าพักบนเกาะช้างในโครงการ KOH CHANG TOGETHER ช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีจำนวนทั้งสิ้น 260 คน และสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้คิดเป็นจำนวนเกือบ 13 ล้านบาท (โดยคิดรายได้จากนักท่องเที่ยวเฉลี่ยต่อคนประมาณ 3,300 บาทต่อวัน และจำนวนวันพักเฉลี่ยต่อคน 15 วัน)