พระนครศรีอยุธยา - พรรคภูมิใจไทย พร้อมเปิดตัว “พิมพฤดา” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเก่า เขต 3 ชูนโยบายฟื้นฟู เศรษฐกิจประเทศ พร้อมเสนอหัวหน้าพรรคลงชิงตำแหน่งนายกฯ
วันนี้ (23 เม.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานการจัดงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 ของพรรคภูมิใจไทย พร้อมกล่าวว่า สาเหตุที่เลือก จ.พระนครศรีอยุธยาจัดงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 ครั้งนี้ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่สำคัญและเป็นจังหวัดที่จะได้ประสานงานร่วมกับสมาชิกพรรคและผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคในพื้นที่ภาคกลาง
อีกทั้งชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังได้ไว้วางใจให้พรรคภูมิใจไทยมี ส.ส.จำนวน 2 คนจากที่พรรคเราไม่เคยมีมาก่อน และวันนี้เราจะมาเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พระนครศรีอยุธยาเขต 3 อีก 1 คน คือ น.ส.พิมพฤดา ตันจรารักษ์ ยืนยันว่าเรามีความตั้งใจรับใช้ประชาชนเพื่อให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขับเคลื่อนมิติทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม เพื่อปากท้องของพี่น้องประชาชน จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีเขตเลือกตั้ง 5 เขต มี ส.ส.5 คน ซึ่งนั่นคือเป้าหมายในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าตั้งเป้ากวาด 5 เก้าอี้ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา แม่ทัพ คือ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล และ นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร ส.ส.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งบอกแล้วว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะลงพื้นที่ทุ่มเทอย่างสุดความสามารถ ส่วนพรรคภูมิใจไทย จะสร้างนโยบายให้ประชาชนมั่นใจและเชื่อใจ เพื่อให้เราได้ ส.ส.ยกจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าไปทำงานให้บ้านเมือง ซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดความเจริญให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เท่านั้น แต่ ส.ส.ทั้งหมดจะช่วยกันผลักดันนโยบายและการออกกฎหมายต่างๆ ของพรรคภูมิใจไทย เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและส่งผลดีต่อประเทศโดยรวม
หลังจากการเลือกตั้งครั้งหน้าเราจะต้องเริ่มมาฟื้นฟู สร้างให้ประเทศกลับมามีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ทางสังคม โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพของประชาชน ซึ่งประเทศไทยจะต้องมีความเข้มแข็งทุกมิติ พร้อมเดินหน้าเพื่อให้ประเทศกลับมาแข็งแกร่งในภูมิภาคนี้ และสามารถพึ่งพาตัวเองได้โดยการยืนอยู่บนขาตัวเอง และยืนอยู่บนเวทีโลกได้สมศักดิ์ศรี
"การเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคภูมิใจไทย เราไม่ได้หวังว่าจะได้ ส.ส.เท่าไหร่ แต่หวังว่าจะได้ ส.ส.ครบทุกเขตที่พรรคส่ง ซึ่งเชื่อว่าจะได้เกิน 100 คนอย่างแน่นอน เพราะพรรคภูมิใจไทย จะต้องส่งผู้สมัครที่มีความทุ่มเท เสียสละ มีคุณภาพ เข้าใจและเข้าถึงประชาชน มีความซื่อสัตย์สุจริต โดยเป็นแพกเกจรวม ส่วนคนไม่ดียืนยันว่าพรรคจะไม่ส่ง ต่อให้มีความแข็งแกร่งในพื้นที่มากแค่ไหนก็ตาม หากจะเข้ามาเพื่อกอบโกยเราไม่สนับสนุน เพราะพรรคภูมิใจไทย เน้นประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก เนื่องจากกว่า 3 ปี ที่ผ่านมาเราได้วางรากฐานสร้างความน่าเชื่อถือให้ประชาชน หากติดตามจะเห็นว่าผลงานของพรรคภูมิใจไทย ที่ให้นโยบายเราทำด้วยความสำเร็จด้วยการพูดแล้วทำ และสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งหากจะทำอะไรต่อไปไม่มีอุปสรรค เพราะเราตั้งใจทำงาน"
อย่างไรก็ตาม พรรคภูมิใจไทยสามารถเสนอชื่อนายกฯ หนึ่งคน ซึ่งเป็นใครก็ได้ที่มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค แต่ข้อปฏิบัติที่พรรคภูมิใจไทยยึดถือและมีความมั่นคงตั้งแต่ก่อตั้งพรรคมา ไม่ใช่เฉพาะตอนเป็นรัฐบาล เพราะสมัยเป็นพรรคเล็กๆ เราก็มีความเป็นปึกแผ่นและยังดำรงเรื่องนี้มาจนถึงทุกวันนี้ ทำให้เราทำงานได้สำเร็จและไม่มีความแตกแยก
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า แม้ในพรรคจะมีความเห็นต่างในความคิด แต่เราจบในห้องประชุมและเคารพกติก มีเอกลักษณ์เป็นความสามัคคีและผลักดันทุกอย่างเพื่อประชาชน ดังนั้น เราต้องพร้อมในการทำสิ่งที่ถูกต้อง
“หากเห็นว่าเราตั้งใจทำงานก็เลือกพรรคภูมิใจไทย ดังนั้น มั่นใจว่า 3 ปีที่ผ่านมา เราทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ มั่นใจว่าผลงานจากการพูดแล้วทำ และจับต้องได้ จึงหวังว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้ได้ทำงานเป็นตัวแทนต่อไป” นายอนุทิน กล่าว
