เชียงใหม่ - คืบหน้ากรณีสาวแม่ริมโพสต์เตือนภัยถูกชายแปลกหน้าพูดจาไม่รู้เรื่องบุกเข้าบ้านตอนตี 4 โดยที่ทั้งบ้านมีแต่ผู้หญิง ล่าสุดแม้ชาวบ้านช่วยกันจับตัวส่งตำรวจได้แล้ว แต่ทั้งหมู่บ้านยังหวาดผวาหวาดกลัว หวั่นถูกปล่อยตัวกลับมาก่อเหตุซ้ำ ขณะที่เจ้าของรีสอร์ตในพื้นที่จุดควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้เล่านาทีระทึก พบแอบเข้าไปนอนในห้องพัก และเปิดออกมาตอนเช้า พอเข้าไปสอบถามโดนออกหมัดใส่ จึงชกสวนหมัดเดียวสลบคาที่ ด้านผู้บังคับการตำรวจเชียงใหม่เผย เบื้องต้นต้องส่งผู้ก่อเหตุเข้ารักษาอาการทางจิตประสาทที่ รพ.สวนปรุง เนื่องจากพูดจาไม่รู้เรื่อง หากสอบปากคำได้แล้วพบเป็นต่างด้าว เตรียมผลักดันออกนอกประเทศทันที วอนชาวบ้านสบายใจได้ ยืนยันไม่ปล่อยกลับไปก่อเหตุซ้ำแน่นอน
ความคืบหน้ากรณีหญิงสาวเจ้าของบ้านในหมู่บ้านปงไคร้ ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กเตือนภัยบอกเล่าเหตุการณ์ที่ผู้ชายนิรนามคนหนึ่งคล้ายเสียสติหรือเมายาเสพติดบุกเข้าไปในบ้านพักของตัวเองที่มีแต่ผู้หญิงอยู่อาศัย ในเวลาประมาณ 04.30 น. วันที่ 20 เม.ย. 65 แล้วตัดผม และอาบน้ำ ซึ่งเมื่อเจ้าของบ้านพบเห็นจึงได้ช่วยกันขับไล่ แต่ชายคนดังกล่าวขัดขืนและพยายามเดินขึ้นไปบนบ้าน พร้อมทั้งบุกเข้าไปในห้องนอนของหลานสาว ทำให้ต้องมีการยื้อยุดกันอยู่พักหนึ่ง จนชายคนดังกล่าวหลบหนีออกไป จากนั้นเจ้าของบ้านได้ร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านและแจ้งผู้ใหญ่บ้านในการแจ้งเตือนคนในหมู่บ้าน พร้อมช่วยกันติดตามจับตัว จนกระทั่งต่อมาในช่วงเช้าวันเดียวกันชาวบ้านสามารถช่วยกันจับตัวได้ในหมู่บ้าน และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปดำเนินการตามกฎหมาย
วันนี้ (21 เม.ย. 65) รายงานข่าวแจ้งว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นส่งผลให้ชาวบ้านในหมู่บ้านปงไคร้ยังต่างตกอยู่ในความหวาดผวา และวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น รวมทั้งหวั่นเกรงกันว่าจะเกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวขึ้นอีกหรือไม่ เนื่องจากปกติแล้วผู้คนในหมู่บ้านแห่งนี้ต่างอยู่กันอย่างมีความสุขและเงียบสงบ โดยไม่เคยมีเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นมาก่อน ขณะที่จากการพยายามติดต่อสอบถามหญิงสาวเจ้าของบ้านดังกล่าวเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น ได้รับการปฏิเสธ บอกแต่เพียงว่ายังอยู่ในอาการหวาดผวาและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะบ้านหลังดังกล่าวตัวเองอาศัยอยู่กับแม่ หลานสาว และญาติ ซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งหมด ส่วนการดำเนินการตามกฎหมายให้เป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้านนางสาวอัมรารัศ หมอช้าง เจ้าของรีสอร์ตแห่งหนึ่งในหมู่บ้านปงไคร้ ซึ่งเป็นจุดที่พบและควบคุมตัวชายผู้ก่อเหตุได้ เปิดเผยว่า ในช่วงก่อนที่จะพบและควบคุมตัวชายผู้ก่อเหตุได้นั้น ทางผู้ใหญ่บ้านได้มีการประกาศเสียงตามสายแจ้งเตือนชาวบ้านถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เช้ามืดและให้ระวังพร้อมช่วยกันสอดส่อง แต่ยังไม่พบตัว จนกระทั่งเวลาประมาณ 07.00 น. ขณะที่ตนกำลังดูแลความเรียบร้อยและจัดเตรียมพื้นที่ในรีสอร์ตที่ให้บริการที่พักและร้านอาหารเครื่องดื่ม ปรากฏว่าชายที่ก่อเหตุได้เปิดประตูออกมาจากห้องพักห้องหนึ่งของรีสอร์ต ในสภาพที่นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว สามีของตนจึงได้เข้าไปสอบถามว่าเป็นใครมาจากไหนและเข้าไปพักได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม จับความได้แต่เพียงว่าชายคนดังกล่าวแอบเข้าไปนอนในห้องพัก และระหว่างที่พูดคุยกันนั้น ชายคนดังกล่าวได้ออกหมัดชกใส่สามีของตนเอง ซึ่งเมื่อสามีของตนตั้งหลักได้จึงชกกลับไปหนึ่งครั้ง ทำให้ชายคนดังกล่าวล้มคว่ำและสลบไป พร้อมกับแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัวไป ส่วนห้องพักที่ชายคนดังกล่าวแอบเข้าไปนอนนั้น ตรวจสอบพบว่าชายคนดังกล่าวทำความสกปรกอย่างมาก โดยเฉพาะห้องน้ำที่ขับถ่ายไว้เลอะเทอะจนต้องทำความสะอาดกันยกใหญ่ ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ครั้งนี้ยอมรับว่าชาวบ้านต่างหวาดผวา เพราะที่ผ่านมาอยู่กันอย่างสงบสุข ไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้และไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก ซึ่งอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องซ้ำอีก
ขณะที่จากการสอบถามชาวบ้านรายหนึ่งบอกว่า ทราบว่าเกิดเหตุขึ้นที่บ้านของหญิงสาวผู้โพสต์ตั้งแต่เช้ามืดและผู้ใหญ่บ้านได้ประกาศเสียงตามสายแจ้งเตือนแล้ว จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะสามารถจับกุมตัวได้แล้ว แต่ยอมรับว่าชาวบ้านยังคงหวาดผวาและกลัวว่าจะเกิดเหตุขึ้นซ้ำอีก เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ถือว่าสะเทือนขวัญที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพราะปกติหมู่บ้านแห่งนี้อยู่กันอย่างมีความสุขและเงียบสงบปลอดภัย ทั้งนี้ อยากวิงวอนให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ก่อเหตุรายนี้จนถึงที่สุด หากเป็นคนเสียสติก็ขอให้นำตัวส่งไปบำบัดรักษาให้หายขาด หรือหากเป็นชาวต่างด้าวก็ขอให้ผลักดันกลับประเทศไป แต่อย่าปล่อยตัวออกมาให้กลับเข้ามาในพื้นที่หมู่บ้านอีก เพราะกลัวจะก่อเหตุซ้ำ และครั้งหน้าอาจไม่ใช่แค่เพียงบาดเจ็บ แต่อาจเกิดการสูญเสียมากกว่านี้ โดยเฉพาะต่อร่างกายและชีวิตของคนในหมู่บ้าน
ด้าน พลตำรวจตรี ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวเบื้องต้นได้รับรายงานว่าทางผู้เสียหายไม่ประสงค์จะเอาความ เพราะเห็นว่าผู้ก่อเหตุเสียสติ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวชายผู้ก่อเหตุไว้ได้แล้ว แต่ยังไม่สามารถพูดคุยสอบปากคำใดๆ ได้ เนื่องจากผู้ก่อเหตุพูดจาไม่รู้เรื่อง ให้การสับสนวกวน คล้ายคนมีอาการทางจิตประสาท และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเป็นบุคคลบนพื้นที่สูงหรือว่าเป็นบุคคลต่างด้าวกันแน่ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการส่งตัวไปเข้ารับการบำบัดรักษาอาการทางจิตประสาทที่โรงพยาบาลสวนปรุง จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ เมื่อรักษาจนอาการดีขึ้นสามารถพูดคุยสื่อสารรู้เรื่องแล้ว จะทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง หากพบว่าเป็นบุคคลต่างด้าวจะผลักดันออกนอกประเทศทันที แต่เบื้องต้นยืนยันว่าในเวลานี้จะไม่มีการปล่อยตัวออกไปและให้กลับเข้าไปในพื้นที่อย่างแน่นอน รวมทั้งสั่งการกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจช่วยเข้มงวดตรวจตราดูแลพื้นที่ด้วย จึงขอให้ชาวบ้านสบายใจได้ พร้อมยืนยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
