นครปฐม - นายกสมาคมอู่ซ่อมรถยนต์และเครื่องจักรกลนครปฐม พร้อมสมาชิกมอบเงิน 50,000 บาท ให้ สภ.เมืองนครปฐม จัดซื้อกล้อง CCTV ในโครงการ “จันทรคามพิทักษ์ Smart Safety Zone 4.0” สร้างเครือข่ายตาสับปะรด ป้องเหตุอาชญากรรม
วันนี้ (19 เม.ย.) ที่ สภ.เมืองนครปฐม พ.ท.ดร.สินธพ แก้วพิจิตร (เสธ.แก้ว) ในฐานะ นายกสมาคมอู่ซ่อมรถยนต์และเครื่องจักรกลนครปฐม พร้อมด้วยนายชัยยุทธ อภิรักษ์ขิต เลขาธิการและสมาชิกสมาคม กลุ่มเพื่อนเสธ.แก้ว ได้เดินทางเข้ามอบเงิน จำนวน 50,000 บาท เพื่อสนับสนุนการจัดซื้อกล้อง CCTV ให้ สภ.เมืองนครปฐม โดยมี พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรศรีนวล ผกก.สภ.เมืองนครปฐม และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้รับมอบ พร้อมนำชมห้องปฏิบัติการในการใช้กล้อง CCTV ที่เชื่อมโยงระบบอินเทอร์เน็ต
พ.ท.ดร.สินธพ แก้วพิจิตร (เสธ.แก้ว) นายกสมาคมอู่ซ่อมรถยนต์และเครื่องจักรกลนครปฐม เผยว่า จากการติดตามแนวคิด “การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ” (Smart City) ซึ่งเป็นการพัฒนาเมืองเพื่อการอยู่อาศัยในอนาคตโดยคำนึงถึงสภาพสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม คุณภาพชีวิต เศรษฐกิจและสังคม ซึ่งอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัลช่วยบริหารจัดการและตรวจสอบเมืองให้มีประสิทธิภาพเหมาะสมต่อการอยู่อาศัย สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ปลอดภัยไม่มีอาชญากรรม เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และพัฒนาอยู่เสมอ นั่นหมายถึงการทำให้ประชาชนมีความสุข ซึ่งทราบว่าในพื้นที่รับผิดชอบในพื้นที่ สภ.เมืองนครปฐม เทศบาลนครนครปฐม โดยท่านนายกเสรินทร์ แก้วพิจิตร นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครปฐม ได้มีการลงนามความร่วมมือในการจัดหากล้อง CCTV มอบให้ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลพี่น้องประชาชนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นจากเดิม
“ผมได้นำเรื่องนี้หารือกับผู้ประกอบการอู่และเครื่องจักรกล ในจังหวัดนครปฐม ซึ่งเห็นว่าเรื่องนี้เป็นประโยชน์ที่มีความสำคัญอันดับต้นๆ เรื่องหนึ่งของคนในสังคมทุกสังคม จึงได้มีการรวบรวมกำลังทรัพย์จากสมาชิกของสมาคม เพื่อมอบให้เจ้าหน้าที่ สภ.เมืองนครปฐมอีกทางหนึ่งเพื่อให้ได้ทำงานอย่างเต็มที่ และเชื่อว่าเรื่องนี้จะทำให้การเกิดเหตุอาชญากรรม หรือเหตุไม่คาดฝันลดลง มีการติดตามสถานการณ์ได้ตลอดเวลา และยังมีส่วนสำคัญในการควบคุมการจราจร ที่เป็นปัญหาที่ประสบกันอยู่ได้ เรื่องนี้เป็นความสำคัญของการใส่ใจกันครับ” เสธ.แก้ว นายกสมาคมอู่ฯ กล่าว
พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรศรีนวล ผกก.สภ.เมืองนครปฐม กล่าวว่า ในส่วนของ สภ.เมืองนครปฐมได้ขับเคลื่อนนโยบายขของรัฐบาล ได้มีการวางแผนบูรณาการร่วมกันกับภาคประชาชน ภาคประชาสังคม ภาคธุรกิจ สื่อมวลชน และราชการส่วนภูมิภาค องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้ามาร่วมมือกันในการดำเนินการ โดยใช้ชื่อโครงการ “จันทรคามพิทักษ์ Smart Safety Zone 4.0” โดยมีการจัดการสร้างห้องปฏิบัติการและควบคุมสั่งการป้องกันอาชญากรรมของสถานีตำรวจ (Command and Control Operation Center : CCOC) เพื่อเชื่อมโยงกับกล้องวงจรปิด (CCTV) มาแสดงยังหน้าจอ และมี Smart Police ตรวจการและตรวจสอบ เพื่อควบคุมอาชญากรรมและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรได้
นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมโยงกับระบบต่างๆ ในฐานระบบข้อมูลหรือภาพต่างๆ ให้สามารถแสดงผลบนจอแบบเรียลไทม์ได้ โดยยังสามารถเชื่อมโยงกันการเชื่อมโยงของภาพทางอากาศผ่านโดรน ซึ่งเป็นการทำให้เมืองนครปฐมมีระบบที่ดีที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีการพัฒนาศักยภาพด้านเทคโนโลยีและสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างแน่นอน