ประจวบคีรีขันธ์ - กองทัพบกยืนยันชาวบ้านบึงนคร ต้องออกจากพื้นที่ เตรียมใช้เป็นที่ฝึกทางยุทธวิธีกองทัพบก ด้านประชาชน 2 หมู่บ้านในตำบลบึงนคร ยังทุกข์ใจอย่างหนัก ยังไม่เห็นหนทางใหม่ คงยื้ออยู่ต่อ คาดหวังการเยียวยาในการหาที่อยู่ใหม่
จากกรณีที่ประชาชน 2 หมู่บ้านในตำบลบึงนคร อำเภอหัวหิน “ทุกข์ใจอย่างหนัก” หลังทหารจากศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ นำประกาศไปติดตามบ้านเรือนแจ้งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.64 เพื่อเตรียมใช้พื้นที่เป็นสนามซ้อมรบ ฝึกยิงกระสุนจริง โดยแจ้งชาวบ้านบุกรุกที่ดินราชพัสดุ หากครบกำหนดไม่ย้ายออกจะไม่รับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น
กรณีดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อประชาชนประมาณ 300 กว่าหลังคาเรือน ในพื้นที่ 2 หมู่บ้าน คือ หมู่ 1 บ้านหนองหินใน และหมู่ 9 บ้านภูหลวง และมีชาวบ้าน จำนวน 9 หลังคาเรือนกำลังจะไร้ที่อยู่อาศัย
ชาวบ้านเกิดความทุกข์ใจ และเกิดความวิตกกังวลอย่างหนัก เนื่องจากชาวบ้านเหล่านี้อาศัยอยู่ในพื้นที่มานานหลายสิบปี บางครอบครัวอาศัยมาตั้งรุ่นพ่อแม่กว่า 50 ปี โดยไม่ทราบมาก่อนว่าเป็นพื้นที่เขตปลอดภัยทางทหาร และพื้นที่ตรงนี้เป็นผืนดินสำหรับปลูกบ้านที่พักอาศัยของครอบครัวเพียงหลังเดียวในชีวิต และเป็นที่ดินสำหรับทำการเกษตร ปลูกสับปะรด กล้วย ยางพารา เพื่อหาเลี้ยงชีพ หากต้องถูกไล่ออกจากพื้นที่ไม่รู้จะไปหาที่อยู่ใหม่ได้ที่ไหน
ล่าสุด ศูนย์การทหารราบ มีการประชุมร่วมกับชาวบ้าน เพื่อชี้แจงการใช้ประโยชน์พื้นที่ราชพัสดุแปลงหมายเลข ปข.605 ในพื้นที่ ต.บึงนคร อ.หัวหิน เพื่อทำความเข้าใจและหามาตรการในการเยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบที่ต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่
โดยศูนย์การทหารราบได้ชี้แจงถึงความจำเป็นในการใช้พื้นที่ราชพัสดุแปลง ปข.605 ซึ่งอยู่ในความดูแลรักษา และใช้ประโยชน์ของกองทัพบก ซึ่งได้กำหนดพื้นที่สำคัญที่จำเป็นต่อการฝึก คือ พื้นที่วิกฤต เนื้อที่ 8,500 ไร่ จำนวน 3 แปลง โดยมีหลักการพิจารณาในการกำหนดพื้นที่ 3 ประการ คือ มีสภาพภูมิประเทศเหมาะสมสำหรับการฝึกดำเนินกลยุทธ์ในรูปแบบต่างๆ หลีกเลี่ยงแหล่งชุมชน หรือพื้นที่ที่มีบ้านเรือนประชาชนซึ่งคือผู้บุกรุกอยู่เดิมอยู่อาศัย และมีผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด ซึ่งพื้นที่ที่ได้กำหนดส่วนใหญ่จะครอบคลุมพื้นที่ตำบลบึงนคร อำเภอหัวหิน
เนื่องจากการฝึกทางยุทธวิธีของกองทัพบก จำเป็นต้องมีการฝึกยิงด้วยกระสุนจริง หากมีประชาชนยังอยู่อาศัย และทำกินในพื้นที่ดังกล่าวอาจเกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เบื้องต้น พบว่ากว่า 20 หลังคาเรือน ซึ่งเป็นพื้นที่ซึ่งอันตรายในการฝึกที่ต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ส่วนพืชผลทางการเกษตรสามารถเก็บเกี่ยวไปได้จนหมดฤดูกาลผลิต
โดยสรุปทางออกไว้ 2 ประเด็น คือ กรณีชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่การฝึกกระสุนจริง จำนวนกว่า 20 หลังคาเรือน จะต้องย้ายออกเพื่อความปลอดภัย ส่วนมาตรการช่วยเหลือเยียวยา หรือจัดพื้นที่แปลงอพยพให้ผู้ได้รับผลกระทบจะต้องรายงานกองทัพบก และหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนพื้นที่แปลงเกษตรขณะนี้ยังไม่ต้องรื้อถอน สามารถเข้าดำเนินการเก็บเกี่ยวจนหมดฤดูกาลและงดการเข้ามาทำการเกษตรในแปลงดังกล่าว จากนั้นค่อยย้ายออกไป
กำนัน ต.บึงนคร กล่าวว่า หลังจากมีข้อสรุปว่าบ้านเรือนบางหลังที่มีการติดประกาศให้รื้อถอนออกไปตามประกาศนั้น หลังจากนี้คงต้องรอทางศูนย์การทหารราบ ที่จะต้องเข้ามาประสาน และไปดูพื้นที่จริง พบกับเจ้าของบ้าน และดูว่าที่ดินในไหนบ้างเป็นจุดที่จะได้รับผลกระทบจากการฝึกกระสุนจริง แต่ต้องยอมรับว่าหากชาวบ้านต้องย้ายออกไปจะมีที่อยู่และมีการเยียวยาหรือไม่อย่างไร
ด้าน น.ส.วิลาสินี หวานใจ ชาวบ้านบึงนคร กล่าวด้วยน้ำตาว่า มีทหารถามตนว่ามีที่อยู่ที่อื่นให้ไปอยู่หรือไม่ ตนตอบไปตามตรงว่าไม่มี จะให้ตนไปอยู่ที่ไหน เพราะอาศัยอยู่ที่บึงนครมาทั้งชีวิต ความรู้สึกตอนนี้คือทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะไปพึ่งใคร ตนเองอยากถามกลับไปทางทหารว่า ที่ตรงอื่นยังมีอีกหรือไม่ ทำไมต้องมาใช้พื้นที่ที่มีประชาชนอาศัยอยู่ ทำไมต้องมาไล่ชาวบ้าน พวกเราไม่ได้บุกรุก แต่บุกเบิกที่ทำกินไว้ให้รุ่นลูกมาสานต่อ โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นพื้นที่ใคร อยู่กันมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ เพราะไม่มีการปิดประกาศห้ามไว้ รู้สึกเสียใจมาก เพราะเราอยู่มานาน ไม่มีที่ไปแล้ว ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกันหากไม่มีหน่วยงานราชการเข้ามาช่วยเหลือ ขณะนี้ยังรอดูว่าจะมีการสรุปกันว่าอย่างไร พวกเรายังยืนยันที่จะขออยู่บ้านเราต่อไป
