อุดรธานี - ตำรวจอุดรฯ คุมตัวหลานขี้ยาทำแผนประกอบคำรับสารภาพทำร้ายและใช้มีดทำครัวปาดคอตาตัวเองตาย ด้านญาติเผยไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้ก่อเหตุทำร้ายคนในบ้าน ก่อนนี้เคยใช้จอบฟันหัวยายทวดจนต้องหามส่งโรงพยาบาล
ญาติแจ้งความแล้วแต่ตำรวจไม่จับ ถ้าจับขังคุกตอนนั้นตาคงไม่ถูกฆ่าตาย
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (8 เม.ย.) พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี กว่า 15 นาย ได้คุมตัวนายอภิชาติ นรากรณ์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98/2 ม.2 บ.ดอนอีไข ตำบลนาดี อำเภอเมือง ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ภายหลังก่อเหตุใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างการนายมงคล มีศรี อายุ 72 ปี จนเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 98/1 ม.2 บ้านดอนอีไข ตำบลนาดี อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โดยมีญาติผู้เสียชีวิตและชาวบ้านละแวกใกล้เคียงมาสังเกตการณ์
ระหว่างทำแผน นายอภิชาติ หรือแอ๊ดดี้ อายุ 26 ปี ผู้ก่อเหตุ รับสารภาพว่าสาเหตุที่ฆ่าปู่โมงเพราะถูกปู่ตำหนิด่าทอหลายๆ เรื่องทำให้เก็บกดมานาน จึงเก็บไว้ในใจ ก่อนเกิดเหตุได้เสพยาบ้าแล้วเดินไปหาปู่โมงจากนั้นได้มีปากเสียงกันขึ้นอีก จึงใช้มือทำร้ายก่อน จากนั้นก็ใช้ไม้ตีไปตามร่างกาย แล้วก็ใช้มีดปาดคอปู่โมงจนนอนแน่นิ่งแล้วหลบหนีไป ตอนนี้สำนึกผิดแล้วและอยากขอโทษญาติๆ พี่น้องกับเหตุการณ์ที่ทำลงไป ขออโหสิกรรมให้ตนด้วย
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องราวที่หดหู่ที่เกิดจากปัญหายาเสพติด โดยตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานีได้รับแจ้งมีเหตุหลานฆ่าปู่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือนายอภิชาต หรือ “แอ๊ดดี้” ใช้ไม้และมีดทำร้ายร่างกายนายมงคลจนเสียชีวิต แต่ไม่นานตำรวจก็ช่วยกันจับกุมเอาไว้ได้ สำหรับนายแอ๊ดดี้ แต่ก่อนเคยเป็นทหารและเคยบวชเป็นพระมา 1 พรรษาแล้วมาอยู่บ้านกับแม่และย่า แต่หันไปติดยาเสพติดแล้วก่อเหตุสลดดังกล่าว
จากการตรวจสอบพบผู้ก่อเหตุมีอาการป่วยทางจิตเล็กน้อยและมีเรื่องเสพยาเสพติดด้วย จึงได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนกรณีที่ประชาชนส่วนใหญ่กังวลกรณีเหตุคนคลั่งคนบ้าที่ฆ่าคนตายติดคุกไม่นานก็ออกมา อยากจะเรียนว่า ตามหลักกฎหมายเราต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าผู้ก่อเหตุมีจิตและสติสัมปชัญญะ 100% หรือมีมากน้อยเพียงใดในขณะก่อเหตุ ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องของทางแพทย์ที่จะพิสูจน์
นางคำพันธุ์ จันทา อายุ 83 ปี ย่าผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 65 ที่ผ่านมายายเดินไปหาน้องชายซึ่งเป็นผู้ตายที่บ้านอยู่ใกล้กัน เพื่อไปถามสารทุกข์สุกดิบว่าหลังสึกออกมาแล้วเป็นอย่างไรบ้าง หลังพูดคุยเสร็จกำลังจะเดินกลับบ้านหลานชายได้ถือจอบดายหญ้ามาฟันที่หัวด้านหลัง โชคดีที่มีคนมาเห็นทันนำพาส่งโรงพยาบาลทำการรักษาโดยเย็บไปที่แผล 8 เข็ม
ด้านญาติคนหนึ่ง (สงวนชื่อสกุล) บอกว่า ก่อนหน้านี้ตอนที่ยายถูกหลานคนนี้ใช้จอบตี ญาติได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมนายแอ๊ดดี้ แต่ตอนนั้นตำรวจมาเพียงแค่สอบถามว่าใครเป็นใครอะไรยังไงเท่านั้น แล้วก็ไปไม่จับกุมคนก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จนมาเกิดเหตุครั้งที่ 2 ฆ่าตาตัวเองจนเสียชีวิต ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดีตอนนั้น วันนี้ตาคงไม่ถูกฆ่าตาย