เชียงใหม่ - ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ชี้แจงกรณีพ่อโพสต์คลิปแฉถูกนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดัง เรียกรับเงิน 700,000 บาทวิ่งเต้นช่วยเหลือลูกชายที่ถูกจับกุมคดียาเสพติด ยืนยันตำรวจทำงานอย่างตรงไปตรงมา ขยายผลจับจากคดียาบ้า 5,000 เม็ด มีหลักฐานชัดเจนแน่นหนา และไม่ได้เป็นคนให้เบอร์ตามที่ถูกกล่าวอ้าง พร้อมชี้ชัดทั้งคู่มีการติดต่อกันเองตั้งแต่แรกเพื่อมาขอประกันตัวผู้ต้องหา แต่พนักงานสอบสวนคัดค้านและศาลไม่ให้ประกัน ย้ำชัดให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
จากกรณีที่มีผู้เป็นพ่อในจังหวัดเชียงใหม่โพสต์คลิปหลักฐานพร้อมบอกเล่าเรื่องราวว่าถูกนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งเรียกรับเงิน 700,000 บาท เพื่อแลกกับการช่วยเหลือลูกชายที่ถูกจับกุมคดียาเสพติด โดยอ้างด้วยว่าได้เบอร์โทร.มาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น วันนี้ (7 เม.ย.) พลตำรวจตรี ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบการจับกุมคดียาเสพติดดังกล่าวของสถานีตำรวจภูธรแม่ปิง พบว่าสืบเนื่องจากการจับกุมคดียาเสพติดของกลางยาบ้า 5,000 เม็ด จากนั้นขยายผลและออกหมายจับ พร้อมทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 65 โดยที่ทางครอบครัวและญาติมีการยื่นขอประกันตัวที่สถานีตำรวจ แต่เนื่องจากเป็นคดีที่มีของกลางยาเสพติดจำนวนมาก ทางพนักงานสอบสวนจึงไม่ให้ประกันตัวและให้ไปประกันตัวที่ศาล พร้อมกับพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว ซึ่งศาลก็ไม่ให้ประกันตัว
ส่วนกรณีคลิปเสียงดังกล่าวนั้น ตามที่ครอบครัวของผู้ต้องหาอ้างว่าได้เบอร์โทร.จากเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ทราบจากชุดจับกุมยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เป็นผู้ให้เบอร์ แต่ทางครอบครัวและญาติได้เป็นผู้ติดต่อเองตั้งแต่แรกแล้ว รวมทั้งได้มีการให้คนดังกล่าวเข้าไปพบพูดคุยกับพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจด้วย ทั้งนี้อยากให้ทางครอบครัวชี้แจงว่าได้เบอร์โทร.จากที่ใดกันแน่และเหตุใดจึงต้องมีการอ้างว่าได้เบอร์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยจากการตรวจสอบพบด้วยว่าบ้านพักของผู้ต้องหาและครอบครัวกับบ้านของนักการเมืองท้องถิ่นรายดังกล่าวนั้นอยู่ไม่ได้ห่างไกลกันแต่อย่างใด และน่าจะมีความเป็นไปได้ที่จะมีความเกี่ยวข้องกันบางประการ
สำหรับในส่วนของสำนวนคดีที่มีการจับกุมตัวตามหมายจับดังกล่าวนั้น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ยืนยันว่าคดีดังกล่าวนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอย่างโปร่งใสตรงไปตรงมา ในสำนวนมีพยานหลักฐานชัดเจนแน่นหนา ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายอย่างแน่นอน พร้อมย้ำว่าไม่มีทางที่ผู้ใดจะมาวิ่งเต้นเปลี่ยนแปลงสำนวนคดีให้เป็นอย่างอื่นได้ ส่วนการเรียกรับเงินตามเนื้อหาในคลิปเข้าข่ายกระทำความผิดหรือไม่นั้น ขอตรวจสอบในรายละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากบุคคลดังกล่าวไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ในประเด็นคลิปที่มีการพาดพิงถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยนั้น เบื้องต้นหลังจากนี้จะมีการเชิญผู้ที่นำคลิปดังกล่าวไปเผยแพร่ และคู่สนทนาในคลิปเข้ามาพูดคุยสอบถามรายละเอียดข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไรกันแน่ โดยเฉพาะในประเด็นที่อ้างว่าจะมีการสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งขอย้ำให้ทุกคนพูดความจริง โดยปราศจากอคติและความไม่พอใจส่วนตัว เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนถูกต้อง
