บุรีรัมย์- หนุ่มวัย 30 สุดทนคู่เขยตั้งวงดื่มเหล้าเปิดเพลงดังลั่น ทำลูกน้อยนอนไม่หลับไปเตือนกลับโมโหบุกเข้ามาทำร้ายถึงในบ้านถูกแทงสวนดับคาหน้าบ้าน ล่าสุดตำรวจ ค้านให้ประกันตัว เหตุอุกฉกรรจ์ เตรียมส่งศาลฝากขังพรุ่งนี้ เผยเศร้าผู้ตายเมียเพิ่งคลอดลูก ขณะมือมีดมีภาระลูกน้อย 3 คน
วันนี้ ( 1 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.00 น. คืนที่ผ่านมา ร.ต.อ.จิรายุ ตาจงราช รอง สว. (สอบสวน) สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุแทงกันเสียชีวิต ที่บ้านไพศาล ต.ไพศาล อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติ แพทย์เวร รพ.ประโคน และหน่วยกู้ภัยบ้านสองเมือง ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบร่างนายยอดรัก เถาย์ยา อายุ 30 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณพื้นหน้าบ้านเลขที่ 56 บ้านไพศาล ต.ไพศาล ซึ่งเป็นบ้านของคู่เขย ในสภาพไม่สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงยีนขายาว ตรวจสอบสภาพศพพบแผลถูกของมีคมแทงที่หน้าอกด้านขวาทะลุหลัง และหน้าอกด้านซ้ายอีก 1 แผล จนเสียชีวิต อยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ เลขที่ 56 หมู่ 1 ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 1 ราย สภาพศพถูกแทงด้วยมีดทำครัว แทงจากหน้าอกด้านขวาทะลุด้านหลังซ้าย และรอยถูกแทงบริเวณหน้าอกด้ายซ้าย 1 แผล เสียชีวิตคาที่ สภาพศพไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงยีนขายาวตัวเดียว เลือดไหลนองเต็มพื้น โดยมีญาติและชาวบ้านมามุงดูจำนวนมาก
ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ใช่ใครที่ไหน คือ นายสมพจน์ การเพียร อายุ 30 ปี เป็นคู่เขยกับผู้เสียชีวิตเอง ซึ่งหลังก่อเหตุ ไม่ได้หนีไปไหน ยังหลบอยู่ในบ้านของตัวเองกับมีดที่ใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปควบคุมตัวพร้อมมีดของกลาง ไปสอบปากคำที่โรงพัก
สอบถามนางสุรัตน์ นุรินรัมย์ อายุ 37 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ บอกว่า ปกติสามีไม่ดื่มเหล้าแต่คู่เขยที่เสียชีวิต จะชอบตั้งวงดื่มเหล้าส่งเสียงดังประจำ โดยก่อนเกิดเหตุผู้ตายก็ตั้งวงดื่มเหล้าแล้วเปิดเพลงดังลั่น ทำให้ลูกน้อยนอนไม่หลับ ตนจึงใช้ให้ลูกสาวคนโตเดินไปบอกผู้ตาย ว่าให้ช่วยหรี่เสียงหรือปิดเพลงหน่อย เพราะนอนไม่หลับ แต่ผู้ตายไม่ยอมปิดแถมเปิดเสียงดังกว่าเดิม สามีจึงตัดสินใจยกคัตเอาท์ไฟฟ้าลง เพระบ้านของคู่เขยพ่วงไฟจากที่บ้านไปใช้ พอยกลงไฟฟ้าก็ดับเปิดเพลงไม่ได้ ทำให้ผู้ตายไม่พอใจได้ใช้บันไดปีนเข้ามาทางหน้าต่างบ้าน เข้ามาชกต่อยสามีจนเกิดการต่อสู้กันสามีเห็นท่าไม่ดี เพราะผู้ตายอยู่ในอาการมึนเมา จึงได้ไปหยิบมีดปลายแหลมในครัวออกมาป้องกันตัว
ตนพยายามห้ามทั้งสองฝ่ายไม่อยากให้เรื่องบานปลาย แต่ก็ไม่มีใครฟังกระทั่งทั้งคู่ออกไปชกต่อยกันที่หน้าบ้านอีก แต่ตนไม่ได้ตามออกไปด้วยเพราะดูลูกน้อยอยู่ กระทั่งสามีถือมีดเปื้อนเลือดเข้ามาในบ้านแล้วบอกว่าแทงคู่เขยเสียชีวิตแล้ว ถึงได้รู้และออกมาดู ก่อนจะแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะหากสามีถูกจับตนกับลูกทั้งสามคนก็ไม่รู้จะทำยังไงเพราะสามีเป็นเสาหลัก
ด้าน นายสมชาย โกยรัมย์ อายุ 48 ปี เพื่อนผู้ตาย เล่าว่า ทำงานเสร็จตนกับผู้ตายจะนั่งดื่มเหล้าด้วยกันเป็นประจำ และวันนี้ก็นั่งดื่มเหมือนทุกวัน และได้เปิดเพลงฟังไปด้วยเพราะผู้ตายบอกว่าเพิ่งได้เครื่องเสียงมาใหม่ ซึ่งผู้ก่อเหตุก็ให้ลูกสาวมาบอกให้ปิดเพลงเพราะนอนไม่หลับ แต่ผู้ตายไม่ยอมปิดทางผู้ก่อเหตุจึงยกคัตเอาท์ไฟลง ทำให้ผู้ตายโมโหเข้าไปหาเรื่องชกต่อยคู่เขยที่บ้านและมารู้อีกทีว่าตอนที่ถูกแทงเสียชีวิตแล้ว ซึ่งนอกจากชนวนเหตุจะเป็นเพราะเปิดเพลงเสียงดังแล้ว ทั้งคู่ไม่ชอบหน้ากันอยู่แล้ว
ขณะที่ นายสมพจน์ การเพียร ผู้ก่อเหตุ บอกว่า เหตุที่ต้องใช้อาวุธมีดแทงเพราะคู่เขยเข้ามาทำร้ายตนเองถึงในบ้านก่อน ตนเห็นท่าไม่ดีจึงไปหยิบมีดปลายแหลมในครัวมาเพื่อป้องกันตัว ช่วงที่ชกต่อยกันก็พยายามผลักออกไปข้างนอก แต่ผู้ตายไม่ยอมหยุดยังพยายามทำร้ายตนอีกทั้งใช้มือบีบคอจนเกือบหายใจไม่ออก จึงตัดสินใจใช้มีดที่ถือในมือจ้วงแทงสวนไป จนเป็นเหตุให้คู่เขยเสียชีวิต ยืนยันว่าไม่ได้เจตนาจะแทงให้ถึงตายแค่ถือมีดมาป้องกันตัวเท่านั้น ก็เสียใจที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นสงสารลูกกับภรรยา
ขณะที่ผู้ตาย ก็มีภรรยาที่เพิ่งคลอดลูกอยู่ระหว่างพักฟื้นที่โรงพยาบาล หลังทราบข่าวว่าสามีถูกแทงเสียชีวิต แทบช็อก ร้องไห้อย่างหนักพยายามจะลงมาดูศพสามี แต่ญาติได้ห้ามเอาไว้เพราะร่างกายยังไม่แข็งแรงดี เนื่องจากเพิ่งคลอดลูก
ส่วนผู้ต้องหาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ควบคุมตัวไว้ที่ สภ.ประโคนชัย เพื่อรอพนักงานสอบสวนสอบปากคำตามขั้นตอน ก่อนจะแจ้งข้อหาและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุดวันนี้ (1 เม.ย.) ร.ต.อ.จิรายุ ตาจงราช รอง สว. (สอบสวน) สภ.ประโคนชัย เจ้าของคดีเตรียมนำตัวนายสมพจน์ ผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อประกอบสำนวนคดี ขณะที่ญาติได้ขออนุญาตเข้าเยี่ยม พร้อมทำเรื่องยื่นขอประกันตัวในชั้นสอบสวน แต่พนักงานสอบสวนไม่อนุญาตให้ประกันในชั้นสอบสวน เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ แต่ญาติสามารถไปยื่นขอประกันตัวในชั้นศาลได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ส่วนการทำแผนกขึ้นอยู่กับความสมัครใจของตัวผู้ต้องหาและญาติด้วย ซึ่งหลังจากสอบสวนเสร็จก็คาดว่าจะส่งฝากขังศาลจังหวัดบุรีรัมย์ในวันพรุ่งนี้ (2 เม.ย.) โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย”
ด้าน นางฉลวย จอมประโคน อายุ 52 ปี พี่สะใภ้ ได้กล่าวภายหลังเดินทางมาเยี่ยมน้องชายที่ห้องขัง สภ.ประโคนชัยว่า หลังจากทราบข่าวก็ตกใจมาก เพราะผู้ก่อเหตุไม่ดื่มเหล้า ขยันทำงาน จากการสอบถามน้องชายตอนที่เข้าไปเยี่ยมว่าทำไมถึงทำแบบนี้ น้องก็บอกว่าถูกผู้ตายบุกเข้ามาทำร้ายในบ้านก่อนทั้งชกต่อยและใช้มือบีบคอ และถูกผู้ตายดื่มเหล้าส่งเสียงดังก่อกวนตลอด ล่าสุดก็เปิดเพลงดังลั่นจนนอนไม่หลับ ตนสงสารน้องมากที่ต้องมาตกเป็นผู้ต้องหา เพราะน้องเป็นเสาหลักต้องดูแลภรรยา และเลี้ยงลูกน้อยอีก 3 คน