ปราจีนบุรี - คาดความเสียหายจากเหตุเพลิงไม้ห้องแถวไม้อายุกว่า 100 ปี ย่านเศรษฐกิจสำคัญเมืองปราจีนฯ วอด 36 คูหาจะมีมูลค่าหลักหลายร้อยล้านบาท ขณะที่ ทม.ปราจีนฯ ตั้งศูนย์ผู้ประสบอัคคีภัยก่อนกำหนดแนวทางเยียวยา
จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ห้องแถวไม้เก่าแก่อายุมากกว่า 100 ปี บริเวณสี่แยกไฟแดงราษฎรดำริ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญเมื่อช่วงเย็นวานนี้ โดยพบว่าแต่ละห้องล้วนเปิดเป็นร้านค้าไม่ว่าจะเป็นร้านค้าปลีกและส่งเครื่องดื่ม ร้านเสื้อผ้า ร้านแก๊ส ร้านขายยา ร้านทอง และอื่นๆ รวมทั้งที่อยู่อาศัยจนได้รับความเสียหายรวม 36 คูหานั้น
วันนี้ (30 มี.ค.) เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานรวมจำนวนกว่า 100 นาย ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย ซึ่งจากการสอบถาม พล.ต.ต.วินัย นุชชา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ที่ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบทราบว่า หลังจากทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริงแล้ว
จากนี้ต่อไปเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินหน้าหาคำตอบว่ามีการลอบวางเพลิง หรือความประมาท หรือไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งอาจจำเป็นต้องระดมพนักงานสอบสวนเข้าหาสาเหตุเพื่อตอบคำถามให้ประชาชนในพื้นที่
ขณะที่ นายอำนาจ วิลาวัลย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 1 ปราจีนบุรี พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็น 1 ในเจ้าของห้องแถวไม้ที่เปิดเป็นร้านจำหน่ายนาฬิกาและแว่นตา ซึ่งเป็นต้นตระกูลวิลาวัลย์ ได้เปิดให้บริการมานานกว่า 80 ปี เผยว่า ในช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.วานนี้ ได้ยินเสียงตะโกนว่าเกิดเพลิงไหม้จึงรีบวิ่งออกมาดู พบว่าเพลิงได้ลุกไหม้รุนแรงแล้ว ตนเองจึงรีบวิ่งกลับมาเก็บของมีค่าภายในร้าน
แต่เนื่องจากเพลิงได้โหมไหม้อย่างรุนแรงจึงไม่สามารถนำตู้นาฬิกาและแว่นตาออกมาได้ทั้งหมด ส่วนมูลค่าความเสียหายขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้เนื่องจากร้านดังกล่าวมีคุณค่าทางด้านจิตใจ โดยในเบื้องต้นคาดว่าความเสียหายไม่น่าจะต่ำกว่า 3 ล้านบาท
เช่นเดียวกับ นางบุพผา แสงเพ็รช อายุ 53 ปี เจ้าของร้านเสื้อผ้าและร้านขายสุรา บอกว่าได้เช่าห้องแถวดังกล่าวเปิดร้านได้ประมาณ 3-4 ปี ซึ่งขณะเกิดเหตุตนเองไม่อยู่ร้านแต่ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากลูก เมื่อกลับมาดูจึงสามารถช่วยได้เพียงสุนัข 1 ตัว ส่วนทรัพย์สินในร้านเสียหายทั้งหมด
ด้าน นายบุญเกื้อ ภาพเพียรศิลป์ นายกเทศบาลเมืองปราจีนบุรี กล่าวว่า ขณะนี้เทศบาลได้จัดตั้งศูนย์ลงทะเบียนผู้ประสบอัคคีภัยเพื่อเป็นศูนย์กลางให้ความช่วยเหลือแล้ว โดยได้เปิดให้ประชาชนที่ได้รับเดือดร้อนเข้าลงทะเบียนเพื่อขอรับการเยียวยา และศูนย์แห่งนี้จะเปิดให้ลงทะเบียนจนกว่าเหตุการณ์จะคลี่คลาย
“จากการคาดเดาเชื่อว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้น่าจะมีมากกว่าหลายร้อยล้านบาท ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.ปราจีนบุรี ได้เร่งซ่อมแซมระบบไฟฟ้าเพื่อให้ประชาชนที่อยู่โดยรอบได้มีไฟฟ้าใช้แล้ว” นายกเทศบาลเมืองปราจีนบุรี กล่าว