เชียงใหม่ - ตำรวจ ปทส.สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฯ-ป่าไม้ ลงพื้นที่ตรวจสอบ-สั่งปิดบ่อขยะเถื่อนบุกรุกป่าเชียงดาว พบเบาะแส อปท.บางแห่งขนขยะทิ้งมาไม่ต่ำกว่า 10 ปี แถมเจอร่องรอยลอบเผาซ้ำ
พ.ต.อ.อริยพล สินสอน รองผู้บังคับการตำรวจ ปทส. พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผู้กำกับการ 4 บก.ปทส. นายสมคิด ปัญญาดี ผู้อำนวยการส่วนยุทธศาสตร์ ทสจ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 ปทส. เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม.5 (เวียงแหง) เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร สภ.เวียงแหง ลงพื้นที่ตรวจสอบบ่อขยะเถื่อน 2 จุดในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเชียงดาว พื้นที่ ต.แสนไห อ.เชียงดาว
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. ใช้อากาศยานไร้คนขับแบบติดตั้งกล้องจับความร้อน หรือ thermal camera บินตรวจสอบพื้นที่บริเวณ ต.แสนไห-ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ พบพื้นที่ป่ามีลักษณะถูกไฟไหม้เป็นบริเวณกว้าง และพบกลุ่มควันจำนวนมาก เมื่อเดินทางเข้าไปตรวจสอบถึงบริเวณพิกัดดังกล่าว พบลักษณะเป็นพื้นที่ลานกว้าง มีขยะถูกทิ้งอยู่จำนวนมากกองเป็นภูเขา บางจุดมีการลักลอบเผา และบ่อขยะอีก 1 บ่อก็มีร่องรอยการเผาขยะเช่นกัน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส.ได้ประสานข้อมูลจากหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ชม.5 เวียงแหง พบว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเชียงดาว เจ้าหน้าที่ ปทส. ชุดปฏิบัติการจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และวางแผนร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว
ซึ่งพบว่าพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเชียงดาว บ้านใหม่มะกายอน ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ถูกตัดโค่นแปรสภาพเป็นลานกว้างใช้สำหรับทิ้งขยะ และมีการนำขยะไปทิ้งในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเป็นเนื้อที่ 1 ไร่ 2 งาน 28 ตารางวา และอีกจุดมีลักษณะเป็นบ่อขยะ รวมทั้งมีการลักลอบเผาขยะทั้งสองจุดจริง
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบ่อขยะบริเวณดังกล่าวพบลูกจ้างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่ง จึงได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้นยอมรับว่ามีการลักลอบทิ้งขยะบริเวณดังกล่าวมานานกว่า 10 ปี นอกจากนี้ จากการตรวจสอบขยะและถุงดำใส่ขยะพบมีการสกรีนถุงดำระบุชื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่งถูกทิ้งไว้ในบ่อขยะด้วย
นอกจากนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่นำโดรนขึ้นบินยังสามารถบันทึกภาพรถขยะต้องสงสัยที่ลักลอบนำขยะไปทิ้งบริเวณดังกล่าวไว้ พร้อมตรวจยึดพื้นที่สืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด ก่อนที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ จ.เชียงใหม่ จะแจ้งความดำเนินคดีข้อหาแผ้วถาง บุกรุก ยึดถือ ครอบครอง ใช้พื้นที่บริเวณที่เกิดเหตุให้เป็นจุดทิ้งขยะ เป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ และ พ.ร.บ.ป่าไม้ ประมวลกฎหมายที่ดิน รวมทั้งความผิดตามประกาศห้ามเผาของจังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย
