xs
xsm
sm
md
lg

หาดูยากแล้ว! ส่องโรงผลิต “น้ำอ้อยหนึก..ของดีสุโขทัย” ขายดีกำไรวันละ 3 พัน แต่เหลือทำกันแค่ไม่กี่ครัวเรือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สุโขทัย - ตามดูโรงงานสานตำนานความหวานจากรุ่นสู่รุ่น ผลิต “น้ำอ้อยหนึก..เหนียวหนึบ ของดีสุโขทัย” เดินเครื่อง 5 เดือนต่อปี ขายทีวันละครึ่งตัน-กำไร 3,000 บาท/วัน แต่เหลือคนทำไม่กี่ครัวเรือน


ทุกวันนี้..บ้านหมู่ 3 ต.เกาะตาเลี้ยง อ.ศรีสำโรง ยังถือเป็นแหล่งผลิต “น้ำอ้อยหนึก” หรือน้ำตาลอ้อยก้อนสูตรโบราณ ที่ขึ้นชื่อของจังหวัดสุโขทัย ซึ่งปัจจุบันคงเหลือชาวบ้านเพียง 5-6 ครอบครัวเท่านั้นที่ยังสืบทอดวิธีทำแบบโบราณลูกผสม (ประยุกต์ใช้เครื่องจักรร่วมกับแรงคน) นับวันหาดูได้ยาก และอาจสูญหายไป เพราะเป็นงานหนัก ลูกหลานคงไม่อยากสืบทอดต่อ

นายวิศรุต เจริญรอบ อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 54/1 หมู่ 3 ต.เกาะตาเลี้ยง อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย เปิดเผยว่า ที่บ้านปลูกอ้อยไว้ 20 กว่าไร่เพื่อใช้แปรรูปทำน้ำอ้อยหนึกโดยเฉพาะ ซึ่งตนกับพี่สาวได้สืบทอดทำต่อจากพ่อแม่ โดยต้องตื่นนอนกันตั้งแต่ตี 3 เริ่มคั้นน้ำอ้อยจนเต็มโอ่งที่ฝังดินไว้ แล้วดูดเข้าถัง 200 ลิตร เอามาลงเคี่ยวไฟในกระทะจนเดือดได้ที่ จากนั้นก็ใส่น้ำตาลทรายเพื่อให้แห้งเร็ว และใส่แบะแซเพื่อให้เหนียวปั้นเป็นก้อนได้

หลังตักออกจากเตาเคี่ยว ก็เอามากวน 5-10 นาทีเพื่อให้น้ำอ้อยจับตัว ก่อนนำมาหยอดเป็นก้อน รอให้แห้ง แล้วก็เก็บบรรจุถุง ถุงละ 10 กิโลกรัม (กก.ละ 35 บาท) เตรียมส่งลูกค้าประจำจากจังหวัดตากและพิจิตร ที่จะมารับซื้อกันถึงที่คนละ 4-5 ตันต่อเที่ยว

นายวิศรุตบอกว่า ที่บ้านผลิตน้ำอ้อยหนึก (หนึก แปลว่า เหนียวหนึบ เนื้อแน่น) ได้วันละ 500 กิโลกรัม (ครึ่งตัน) หักค่าใช้จ่ายแล้วก็จะเหลือกำไรประมาณวันละ 3,000 บาท โดยจะผลิตกันทุกปีในช่วงเดือนธันวาคม ถึงเมษายน รวมระยะเวลา 5 เดือน ถือเป็นงานหนัก แต่ก็คุ้มค่าเหนื่อย ใครที่สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ 09-0202-0939 หรือเบอร์ 06-1109-3739

“อย่างไรก็ตาม ที่บ้านทำอาชีพนี้มานานเกือบ 40 ปีแล้ว ซึ่งผมก็มีลูกสาว แต่ก็คิดว่าตัวเองคงจะเป็นรุ่นสุดท้ายของครอบครัวที่จะสืบทอดต่อการทำน้ำอ้อยหนึกสูตรโบราณ” นายวิศรุตกล่าว


















กำลังโหลดความคิดเห็น