xs
xsm
sm
md
lg

ผ่านไปเกือบปีคดีไม่คืบ! แม่ “น้องปลื้ม” นศ.อุเทนเหยื่อรุ่นพี่โหดซ่อมดับ ร้องขอความเป็นธรรม เผยชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ - แม่น้องปลื้ม ชาว อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ อดีต นศ.อุเทนถวาย เหยื่อรุ่นพี่โหดซ่อมเสียชีวิต ร้องขอความเป็นธรรมหลังลูกชายตายมาเกือบปีแต่คดีไม่คืบ ถึงขณะนี้ ตร.ยังไม่สรุปสำนวนคดีส่งอัยการ เผยทั้งน้ำตาหลังสูญเสียลูกชายใช้ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็นบางวันแทบไม่อยากลืมตา วอนผู้เกี่ยวข้องช่วยติดตามเร่งรัดคดี

วันนี้ (19 มี.ค.) นางมนัสนันท์ ตามกลาง อายุ 59 ปี ชาวอำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังจาก นายวีรพัฒน์ ตามกลาง หรือน้องปลื้ม ลูกชายคนเล็ก ซึ่งเป็นอดีตนักศึกษาอุเทนถวาย รุ่น 89 แผนกวิศวกรรมก่อสร้าง ที่ถูกรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายหรือซ่อม เพราะไม่ยอมทำตามที่รุ่นพี่สั่ง ขณะเตรียมจัดงานรับน้อง เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2564 จนอาการสาหัส ถูกส่งรักษาตัวที่ รพ.นาน 8 วัน ก่อนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2564 จนถึงขณะนี้เวลาผ่านมานานเกือบ 1 ปีแล้วแต่คดียังไม่มีความคืบหน้า


ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือทางสถาบันการศึกษาไม่เคยแจ้งอะไรให้ตนเองทราบเลย ต้องให้ลูกชายคนโต และทนายความไปสอบถามและติดตามเรื่องเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ให้คำตอบเพียงว่าอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ แต่เท่าที่ทราบจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการสรุปสำนวนคดีส่งอัยการเลย จึงเกรงว่าเรื่องจะเงียบหายและไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงอยากเรียกร้องให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ช่วยติดตามเร่งรัดคดี เพื่อให้ครอบครัวและลูกชายที่เสียชีวิตได้รับความเป็นธรรมด้วย

นางมนัสนันท์บอกว่า ลูกชายมีความใฝ่ฝันที่จะเข้าเรียนอุเทนถวาย แต่ส่วนตัวแม่ไม่เคยสนับสนุนหรืออยากให้ลูกเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้เลย เพราะจะได้ยินข่าวรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายรุ่นน้องบ่อย แต่ลูกชายบอกว่าตนเองคงไม่เป็น 1 ใน 100 หรอกแม่ และเขาก็เคยบอกกับแม่ว่าอยากเป็นวิศวกร กระทั่งลูกได้เข้าเรียนที่อุเทนถวายตามที่เขาใฝ่ฝัน เป็นเวลา 1 ปีกว่า


ส่วนสาเหตุที่ลูกชายถูกรุ่นพี่ทำร้าย เพราะลูกชายเคยผ่านการรับน้องมาแล้วตอนเข้าปี 1 แต่ที่ลูกชายถูกทำร้าย เพราะรุ่นพี่สั่งให้จัดเตรียมสถานที่ เพื่อทำกิจกรรมรับน้องที่จะเข้าใหม่ในคณะฯ จึงถูกทำร้ายหรือซ่อมจนเสียชีวิต

ในฐานะคนเป็นแม่เสียใจมาก หลังจากสูญเสียลูกชายก็ต้องใช้ชีวิตอยู่เหมือนตายทั้งเป็น บางวันแทบไม่อยากลืมตา แต่ต้องทำใจให้เข้มแข็งเพราะยังมีลูกอีกคนที่ต้องดูแล แต่สิ่งที่ทำให้ลูกได้คือจะตื่นมาทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้ลูกทุกเช้า แต่ยอมรับว่าทุกครั้งที่นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกชาย จะอดร้องไห้ไม่ได้ ยิ่งมาเห็นข่าวนักศึกษาที่ จ.นครราชสีมา เสียชีวิตเพราะการรับน้องอีก ยิ่งเหมือนตอกย้ำความรู้สึกที่ตนเองต้องสูญเสียลูกชาย และไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้ต้องเกิดกับครอบครัวใครอีก

สิ่งที่อยากได้ที่สุดตอนนี้คือ อยากให้รุ่นพี่ที่ทำร้ายลูกชายจนเสียชีวิต ได้รับโทษตามกฎหมาย ไม่ได้อยากได้เงินทองเพราะมันไม่สามารถแลกกับสิ่งที่ตนเองสูญเสียได้ แต่พอเวลาผ่านไปนานเกือบ 1 ปีคดีกลับไม่มีอะไรคืบหน้า จึงเริ่มไม่มีความมั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ ตอนนี้ก็ 50/50 ไม่รู้จะมีวันนั้นหรือไม่ นางมนัสนันท์กล่าวในตอนท้าย






กำลังโหลดความคิดเห็น