เชียงใหม่ - "บิ๊กโจ๊ก" ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขึ้นเชียงใหม่ แถลงรวบหนุ่มแสบหลอกนักเรียนชายถ่ายคลิปโป๊ แล้วแบล็กเมล์กดดันรีดทรัพย์จนเหยื่อเครียดจัดตัดสินใจยิงตัวตาย เบื้องต้นพบผู้ต้องหาประวัติโชกโชน ก่อเหตุลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ยังมีเหยื่ออีกกว่า 20 ราย ต้องเร่งสืบสวนดำเนินคดีต่อ เอาผิดต่างกรรมต่างวาระเพื่อให้รับโทษสูงสุด
วันนี้ (18 มี.ค. 65) ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรองผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็กสตรีและครอบครัวป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง สํานักงานตํารวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) แถลงข่าวการจับกุมตัวนายฉันทพัฒน์ อนันตวงศ์ อายุ 26 ปี ชาวอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ฐานความผิดรีดเอาทรัพย์, ครอบครองสื่อลามกอนาจารเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น โดยจับกุมตัวได้ที่หอพักแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ วานนี้
ทั้งนี้ การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 65 ที่ผ่านมา สภ.สารภี จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งมีเหตุชายใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต ผู้เสียชีวิตคือ เด็กชายเจ (นามสมมติ)อายุ 17 ปี ที่อยู่ หมู่ที่ 4 ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ สาเหตุแรงจูงใจให้ผู้เสียชีวิตลงมือก่อเหตุมาจากการถูกข่มขู่ให้ผู้เสียชีวิตโอนเงินให้คนร้ายแลกกับการที่คนร้ายจะไม่นำคลิปวิดีโอลับ (คลิปโป๊) ของผู้เสียชีวิตไปเผยแพร่ จนกระทั่งเป็นสาเหตุให้ผู้เสียชีวิตลงมือก่อเหตุยิงตัวเองนั้น โดยได้เขียนจดหมายลาตายไว้ด้วย
ต่อมาพลตำรวจโท รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการ ศพดส.ตร.ได้สั่งการ ให้ชุด TICAC ศพดส.ตร.ลงไปเร่งรัดทำการสืบสวน ร่วมกับ ภ.5 โดยได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้อง และภาพกล้องวงจรปิดของเจ้าของบัญชี จนได้ภาพขณะกดเงินหลังจากผู้เสียหายโอนเงินไป และทำการพิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำความผิด คือ นายฉันทพัฒน์ และให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานร้องขอต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ออกหมายจับบุคคลดังกล่าว ในความผิดฐาน “รีดเอาทรัพย์, ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น” ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ 187/2565 ลงวันที่ 17 มีนาคม 2565
โดยชุด TICAC ศพดส.ตร.สืบสวนจนทราบว่า นายฉันทพัฒน์ได้พักอาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จึงได้ร่วมกับ บช.น.ช่วยตรวจสอบและหาข่าวจนทราบว่า นายฉันทพัฒน์พักอาศัยอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จึงได้เข้าทำการติดตามจับกุมนายฉันทพัฒน์ พร้อมของกลาง อยู่ระหว่างนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.สารภี สืบสวนขยายผลดำเนินคดีต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องการกระทำความผิดดังกล่าวตามกฎหมายต่อไป ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาหลายครั้ง ซึ่งกำลังเร่งขยายผลว่าผู้ต้องหารายนี้ได้ก่อเหตุลักษณะดังกล่าวต่อเด็ก และสตรีรายอื่นๆ อีกกี่ราย เพื่อมาเป็นพยานหลักฐานมัดตัวให้มีบทลงโทษทางกฎหมายที่หนักสุดต่อไป
ขณะเดียวกัน พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ ซึ่งสอบปากคำผู้ต้องหาเอง ระบุว่า คดีนี้จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วเมื่อปี 2562 และล่าสุดกลับมาเริ่มก่อเหตุเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันอีกประมาณ 10-20 รายด้วยกัน ซึ่งเรียกเอาทรัพย์เหยื่อรายละ 1-2 หมื่นบาท กรณีของน้องที่เสียชีวิต รับสารภาพว่าขู่เอาเงินน้องมาครั้งละ 4,000-5,000 บาท รวมประมาณ 2 หมื่นบาท และยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้เกิดเหตุสลดจนน้องตัดสินใจยิงตัวตาย และไม่ทราบข่าวจนกระทั่งถูกตำรวจติดตามไปจับกุมตัวเมื่อวานนี้จึงทราบว่าเป็นต้นเหตุทำให้น้องเสียชีวิต และรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ จากการสืบสวนขอตำรวจภาค 5 พบว่ายังมีเหยื่อที่ถูกผู้ต้องหาก่อเหตุลักษณะเดียวกันอีกมากกว่า 20 ราย ซึ่งกำลังเร่งดำเนินการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดี และจะเป็นการดำเนินคดีแบบต่างกรรมต่างวาระเพื่อให้ผู้ต้องหาได้รับโทษสูงสุดกับสิ่งที่กระทำลงไป พร้อมกันนี้ก็ได้ฝากย้ำเตือนไปถึงพ่อแม่ผู้ปกครองซึ่งปัจจุบันพบว่าเด็กและเยาวชนเข้าถึงสื่อต่างๆ ได้ง่ายขึ้นจึงสามารถตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพในลักษณะนี้ได้ง่ายขึ้นด้วย ต้องคอยสอดส่องดูแลเอาใจใส่ให้คำแนะนำในการใช้สื่ออย่างถูกต้อง