xs
xsm
sm
md
lg

ด่างแดงอินโดฯ พินาศยับ! พิษพายุถล่มหนักทั่วกำแพงเพชร เจ้าของสวนจำใจตัดทิ้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กำแพงเพชร - พิษพายุฤดูร้อนถล่มหนักทั่วเมืองกล้วยไข่..เช้ามาเจ้าของสวนบ้านสุดใจแทบล้มทั้งยืน หลังพบกล้วยด่างหลากสายพันธุ์ รวมทั้งแดงอินโดฯ โดนพายุถล่มยับเสียหายนับล้าน ขณะที่บ้านเรือนชาวบ้านหลายพื้นที่หลังคาเปิดปลิวว่อน


วันนี้ (17 มี.ค. 65) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากพายุฝนที่พัดถล่มเมืองกล้วยไข่-กำแพงเพชร อย่างหนักคืนที่ผ่านมา เบื้องต้นพบว่าบ้านเรือนประชาชนในเขต อ.คลองขลุง ได้รับผลกระทบหลังคาเปิดกว่า 50 หลังคาเรือน บางหลังคาปลิวหายไปทั้งแถบ

รวมถึงในพื้นที่ทำการเกษตรอย่างสวนมะละกอของชาวบ้าน ม.4 (บ้านวังน้ำ) ต.วังยาง อ.คลองขลุง ก็ถูกลมพายุพัดจนผลผลิตร่วงจากต้นนับร้อยๆ ไร่ ซึ่งก็ต้องเร่งใช้เรือเก็บผลผลิตก่อนจะเสียหายไปมากกว่าเดิม โดยได้มีเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่อำเภอลงพื้นที่สำรวจช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

ขณะที่ "บ้านสวนสุดใจ" เลขที่ 66 ม.2 (บ้านหนองหล่ม) ต.โพธิ์ทอง อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร ที่ปลูกต้นกล้วยด่างราคาแพงหลายสายพันธุ์ เช่น กล้วยด่างตระกูลน้ำว้า, กล้วยตานีด่าง  กล้วยเทพพนมด่าง, กล้วยเสือพรานด่าง, กล้วยด่างฟลอริดา, ตระกูลกล้วยป่าด่างต่างๆ และที่กำลังฮิตตามกระแสคือ "กล้วยด่างแดงอินโด" ถูกลมพายุพัดถล่มต้นกล้วยด่างที่ปลูกเป็นแม่พันธุ์และเพาะหน่อเสียหายนับล้านบาท

ขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เจ้าของสวนกล้วยด่างก็กำลังตัดเครือกล้วยออกจากลำต้นที่ถูกลมพัดจนถอนรากยกโคน พร้อมนำผู้สื่อข่าวเดินดูความเสียหายภายในสวนกล้วยเจ้าของสวนจำใจต้องตัดทิ้งจำนวนมาก

นายณัฐกานต์ ยังธรรม อายุ 49 ปี เจ้าของสวนสุดใจ เล่าว่า ยอมรับว่าพายุเมื่อคืนหนักมากในรอบหลายปี แม้สวนกล้วยของตนมีต้นสนและต้นไผ่กันไว้หมดก็ยังเอาไม่อยู่ ซึ่งหากลมพายุไม่ถล่มเมื่อคืนตนได้นัดผู้สื่อข่าวมาถ่ายกล้วย AeAe เครือแรกของสวน ซึ่งตนจะตัดให้ลูกค้าที่มาซื้อกล้วยด่างของตนเป็นของแถม แต่ดันมาหักเพราะลมเสียก่อน ซึ่งวันนี้ได้ตัดต้นกล้วยด่างแดงอินโดที่ราคาแพงและนิยมทิ้งไปหลายต้น ยอมรับว่าเสียดาย คาดว่ามีความเสียหายนับล้านบาท

ส่วนที่ อ.โกสัมพีนคร พบว่าที่บ้านของนางจีระวรรณ แสงจันทร์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/1 บ้านไร่ลำปาง หมู่ 15 ต.โกสัมพี อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร ถูกลมพายุยกหลังคาหายไปทั้งหลัง ข้าวของในบ้านทุกอย่างเปียกฝนหมด


นางจีระวรรณเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ช่วงเวลาประมาณเกือบ 4 โมงเย็นวันที่ 16 มีนาคม มีลมพายุพัดมาอย่างรุนแรง ตนมองเห็นเป็นพายุหมุนลูกใหญ่ดำทะมึนหมุนมาทางบ้านของตน เสียงต้นไม้ล้มดังอื้ออึง ฝุ่นและใบไม้ปลิวจนมืดมองอะไรแทบไม่เห็น ตนกับลูกๆ รวม 5 คนได้วิ่งเข้าไปกอดกันกลมหลบอยู่ในครัว

ต่อมาก็ได้ยินเสียงดังมากหลังคาบ้านทั้งหลังถูกลมพายุพัดหอบปลิวข้ามหลังคาบ้านคนอื่นไปตกไกลจากบ้าน เป็นจังหวะที่น้ำฝนเทลงมาภายในบ้าน ทำให้ข้าวของต่างๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ที่ลูกใช้เรียนออนไลน์ ที่นอน เสื้อผ้าเปียกเสียหายหมดทั้งบ้าน ตั้งแต่เกิดมาก็ยังไม่เคยเจอน่ากลัวแบบนี้มาก่อน

และบ้านเลขที่ 19 หมู่ 15 ต.โกสัมพี บ้านของนางกุหลาบ หล่องคุ้ม อายุ 91 ปี ซึ่งอาศัยอยู่กับลูกชาย ลมพายุได้พัดเอาหลังคาบ้านหายไปครึ่งหลัง น้ำฝนไหลลงมาจากชั้น 2 ทำให้ข้าวของที่นอนเปียกหมด สร้างความตกใจให้นางกุหลาบเป็นอย่างมาก ญาติๆ ต้องมาช่วยกันนำตัวไปอยู่บ้านที่ปลอดภัยก่อน

ทั้งนี้ ภาพรวมทั้งจังหวัดในเบื้องต้น พบว่ามีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุในครั้งนี้จำนวน 7 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.คลองขลุง อ.โกสัมพีนคร อ.บึงสามัคคี อ.ไทรงาม อ.ทรายทองวัฒนา และ อ.ลานกระบือ รวม 40 หมู่บ้าน บ้านเรือนพังเสียหายประมาณ 272 หลังคาเรือน แต่ยังสำรวจไม่เสร็จทั้งหมด คาดว่าพื้นที่ทางเกษตร อย่างเช่นสวนลำไย สวนมะละกอ สวนกล้วย และนาข้าวยังมีที่เสียหายอีกมาก




กำลังโหลดความคิดเห็น