จันทบุรี - อดีตนายกสมาคมชาวนาไทย แนะเกษตรกรใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทนปุ๋ยชีวภาพ หลังพิษโควิด-19 และการสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำราคาปุ๋ยชีวภาพ สารเคมีราคาพุ่งเกือบเท่าตัว วอนรัฐเลิกนำเข้าข้าวสาลี หันใช้ข้าวไทยผลิตอาหารสัตว์เชื่อช่วยได้ทั้งเกษตรกรและผู้ประกอบการ
วันนี้ (17 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายสุเทพ คงมาก กรรมการ นบข. และอดีตนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ว่าปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกทั้งการสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน ได้ส่งผลกระทบต่อราคาปัจจัยการผลิตข้าวที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นราคาปุ๋ย และสารเคมีสำหรับใช้ในนาข้าว สวนทางกับราคาขายข้าวเปลือกของไทยที่ยังคงตกต่ำ
ประกอบกับปริมาณการเพาะปลูกข้าวที่ได้ประมาณ 18 ล้านตันต่อปี และส่งขายเพื่อการบริโภคภายในประเทศประมาณ 10 ล้านตัน ที่เหลือเป็นการส่งออกไปยังต่างประเทศ แต่ในช่วงปีที่ผ่านมาการส่งออกข้าวไทยกลับทำได้เพียงไม่เกินปีละ 6 ล้านตัน
“ขณะนี้ปริมาณข้าวในส่วนที่เหลือเรายังไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร จึงอยากให้รัฐบาลยกเลิกการนำเข้าข้าวสาลีเพื่อใช้สำหรับผลิตอาหารสัตว์จากต่างประเทศ และให้หันมาใช้ข้าวที่ปลูกในประเทศไทยซึ่งเหลือจากการส่งออกแทน โดยเชื่อว่าหากเป็นเช่นนี้จะได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย คือ ทั้งเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และผู้ประกอบการที่ต้องนำเข้าวัตถุดิบสำหรับผลิตอาหารสัตว์จากต่างประเทศ”
อดีตนายกสมาคมชาวนาไทย ยังบอกอีกว่าหลังเกิดการสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้สมาชิกสมาคมฯ หันมาผลิตข้าวอินทรีย์โดยไม่ต้องพึ่งพาการใช้ปุ๋ยเคมี และได้เริ่มทดลองปลูกแล้วในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปรากฏว่าได้ผลผลิตข้าวต่อไร่จำนวนมาก และยังสามารถลดต้นทุนการนำเข้าปุ๋ยและสารเคมีจากต่างประเทศได้ด้วย
พร้อมเชิญชวนให้ชาวนาไทยลองเปลี่ยนวิธีการทำนาจากการใช้ปุ๋ยชีวภาพ มาเป็นการทำนาด้วยปุ๋ยอินทรีย์เพื่อลดต้นทุนการผลิตที่ขณะนี้ปัจจัยต่างๆ สูงขึ้นเกือบเท่าตัว
