อุบลราชธานี - ลูกชายหลอนยาสารภาพไม่รู้ว่าฆ่าพ่อแม่ คิดว่าเป็นคนอื่นจะมาทำร้ายตัวเอง ด้านตำรวจรับมียาเล็ดลอดจากประเทศเพื่อนบ้านมาตามช่องทางธรรมชาติ ซึ่งผู้บังคับบัญชากำชับให้กวดขันจับต่อเนื่อง ขณะชุมชนต้องช่วยกันดูแล นำคนเสพไปบำบัดไม่ให้มีอาการหลอนยาก่อเหตุขึ้นอีก
ความคืบหน้ากรณีลูกชายวัย 33 ปี ใช้จอบและไม้ทุบตีพ่อแม่จนเสียชีวิต ก่อนลากศพไปที่เตาเผาถ่าน หวังใช้น้ำตาลที่เข้าใจเป็นน้ำมันราดจุดไฟเผา แต่ไม่สำเร็จ จึงขี่รถจักรยานหลบหนี ก่อนถูกจับดำเนินคดี
พ.ต.อ.เฉลิมพล โพทิพยวงศ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรโพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวานนี้ ภายหลังนายอเนก อิธิ ลูกชายที่เป็นผู้ต้องหาฆ่าบุพการีมาสอบปากคำ ซึ่งให้การรับสารภาพขณะลงมือทำร้ายและฆ่าพ่อแม่ ไม่รู้ว่าคนที่ตนฆ่าเป็นพ่อและแม่ คิดว่าเป็นคนอื่นที่จะมาฆ่าตนจากอาการหลอนยา และรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังสอบปากคำก็ได้นำตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดอุบลราชธานี ข้อหาฆ่าบุพการีจนถึงแก่ความตาย และยังไม่มีการยื่นขอประกันจากญาติพี่น้อง
พ.ต.อ.เฉลิมพลกล่าวยอมรับว่า อำเภอโพธิ์ไทรมีพื้นที่เขตแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน จึงมีการแพร่ระบาดของยาเสพติด แต่ที่ผ่านมาก็มีการกวดขันจับกุมผู้ลักลอบค้ายาเสพติดในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีเล็ดลอดเข้าตามช่องทางธรรมชาติ เพราะมีแนวชายแดนตามแม่น้ำโขงยาวถึง 37 กิโลเมตร ที่ผ่านมาผู้บังคับบัญชาระดับสูงก็ได้กำชับให้พื้นที่ทำการกวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดแพร่ระบาดของยาเสพติดตามแนวชายแดน
ด้านญาตินำศพสองผัวเมีย นายวิลัย และนางอุไร อิธิ ตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านภูเวียง ต.สารภี อ.โพธิ์ไทร เป็นเวลา 3 วัน และจะฌาปนกิจที่วัดประจำหมู่บ้าน
นายสุดใจ พวงผกา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายความมั่นคง เล่าว่า สำหรับนายอเนก ผู้ต้องหาเดิมมีอาชีพขี่รถวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างอยู่ที่กรุงเทพฯ และกลับมาอยู่บ้านเกิดได้ประมาณ 1 ปี ระหว่างนั้นก็ไม่ได้ทำงานอะไร ถ้าไม่เสพยา ก็จะเป็นคนเฉยๆ แต่เมื่อเสพยาจะมีพฤติกรรมรุนแรง
ล่าสุดวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุฆ่าพ่อแม่หนึ่งวัน ได้ใช้เท้าเตะนายวิลัย ตนก็ได้เข้าไปห้ามปราม ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาก็มีพฤติกรรมทำลายข้าวของในบ้าน แต่ไม่ถึงขนาดทำร้ายคนในบ้าน กระทั่งช่วงรอบสัปดาห์นี้ ผู้ก่อเหตุเริ่มไม่สุงสิงกับใคร ตาขวาง ซึ่งวันที่ผู้ต้องหาทำร้ายพ่อ ตนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ แต่พ่อกับแม่ของผู้ต้องหาห้ามไว้ เพราะเกรงถ้าเอาตัวไปแล้วถูกปล่อยตัวออกมาจะมาฆ่าพ่อแม่ ซึ่งกำลังหาวิธีจะเอาตัวไปรักษา แต่มาเกิดเหตุขึ้นก่อน
ที่ผ่านมาหมู่บ้านไม่เคยเกิดเรื่องทำนองนี้มาก่อน ต่อไปหากครอบครัวใดที่มีคนป่วยจากการเสพยาต้องหาทางนำไปบำบัดให้หายขาด เพื่อจะได้ไม่เกิดเหตุทำนองนี้ขึ้นมาอีก เพราะดูจากสื่อโซเซียลมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดบ่อยขึ้น