สมุทรสงคราม - ลิ้นจี่สมุทรสงครามปีนี้มีน้อย ราคาคาดว่ากิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 400 บาท ชาวสวนดีใจที่จะขายได้ราคา แต่ต้องมาเดือดร้อนเพราะถูกขโมยกลางดึกจนต้องกางมุ้งนอนเฝ้า
จากสภาพอากาศที่แปรปรวนในช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมา ทำให้ลิ้นจี่พันธุ์ค่อม ผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่เพาะปลูก จำนวน 5,196 ไร่ ให้ผลผลิตเพียงแค่ 450 ตัน จึงเป็นไปได้ว่าลิ้นจี่ของจังหวัดสมุทรสงครามซึ่งจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในช่วงเช็งเม้ง หรือปลายเดือนมีนาคมนี้ จะมีราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 400 บาท
ทำให้ชาวสวนนอกจากจะประสบปัญหาทางธรรมชาติ เช่น กระรอก และค้างคาวมากัดกินผลลิ้นจี่ได้รับความเสียหายแล้ว ยังต้องประสบกับปัญหามิจฉาชีพที่เข้ามาลักขโมยลิ้นจี่ถึงในสวน โดยเฉพาะสวนที่อยู่ตามริมคลอง การดูแลไม่ทั่วถึงจะถูกลักขโมยได้รับความเสียหายซ้ำสอง
นายเอกชัย เทียนไชย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ตำบลบ้านปราโมทย์ อำเภอบางคนที ซึ่งปลูกลิ้นจี่ไว้ ริมคลองวัดประดู่ จำนวน 4 ไร่ เผยว่า ช่วงนี้โดนขโมยลิ้นจี่หายไปจำนวนมาก จึงต้องลงทุนนำแคร่ไม้ไผ่ และมุ้งครอบมากางนอนเฝ้าสวนลิ้นจี่ ซึ่งมีผู้ไม่หวังดีพายเรือหิ้วกระสอบปุ๋ยเข้ามาขโมยลิ้นจี่เป็นระยะๆ
“ลิ้นจี่ของจังหวัดสมุทรสงครามปีนี้ให้ผลผลิตไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะสวนของตน จำนวน 4 ไร่ มีลิ้นจี่ 250 ต้น ติดผลเพียงแค่ 10 กว่าต้น บางต้นติดน้อยไม่เต็มกิ่งจึงคาดว่าจะให้ผลผลิตรวมแล้วไม่เกิน 1 ตัน หรือประมาณ 1,000 กิโลกรัมเท่านั้น ส่งผลให้ลิ้นจี่ปีนี้มีราคาสูงแน่นอน คาดว่าไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 400 บาท จึงมีมิจฉาชีพเข้ามาขโมยลิ้นจี่ถึงในสวน ทำให้ชาวสวนได้รับความเดือดร้อนเพราะลิ้นจี่ 1 กิโลกรัม มีประมาณ 50-60 ลูก หากขโมยไป 1 กิ่ง เสียหายไปประมาณ 10 กิโลกรัม หรือ 4,000 บาทแล้ว จึงจำเป็นต้องมานอนเฝ้าสวน ซึ่งผีนั้นตนไม่กลัวเพราะผียังขอหวยได้ แต่คนที่พายเรือมาขโมยลิ้นจี่ ขออะไรมันไม่ได้เลย และหากมาบ่อยๆ ก็ไม่ไหว
สำหรับลิ้นจี่ของจังหวัดสมุทรสงครามเคยให้ผลผลิตเพียงแค่ต้นเดียว ในพื้นที่หมู่ 5 ตำบลบางสะแก อำเภอบางคนที จำนวน 12 กิโลกรัม เมื่อปี 2559 จนเจ้าของคือ นางบุญมา พวงสวัสดิ์ อายุ 73 ปี ต้องกางมุ้งป้องกันไม่ให้กระรอกและค้างคาวมารบกวน และมีผู้ต้องการเดินทางมารอซื้อลิ้นจี่ถึงที่สวนหลายราย จนต้องแบ่งขายให้เพียงรายละ 1 กิโลกรัมเท่านั้น ในราคากิโลกรัมละ 1,000 บาท ขณะที่ผู้ซื้อก็แย่งกันซื้อ