พระนครศรีอยุธยา - เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวหนุ่มใหญ่มือปืนกระหน่ำยิงอดีตแฟนพนักงานร้านสะดวกซื้อเสียชีวิตสอบเครียด เปิดปากสั้นๆ ขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต
จากกรณี นางสุภาพร ขำละเอียด อายุ 45 ปี พนักงานร้านสะดวกซื้อ สาขาปั๊มน้ำมัน ปตท.ริมถนนสายเอเชีย ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกนายนายศรีกรุง ประสิทธิ์พร อายุ 51 ปี อดีตสามี ใช้อาวุธปืนบุกเข้าไปภายในร้านสะดวกซื้อจนเสียชีวิต เหตุเกิดช่วงค่ำวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อนุมัติหมายจับในข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและยิงปืนในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชนโดยใช่เหตุ" ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (13 มี.ค.) ที่ห้องสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา ร.ต.อ.กิติศักดิ์ อุดมรักษ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา ควบคุม นายศรีกรุง ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากที่ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ โดยได้นำตัวออกจากห้องควบคุมผู้ต้องหามาสอบปากคำเพื่อประกอบทางคดี โดยระหว่างนำตัวออกมาผู้ต้องหามีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด พร้อมทั้งพูดเพียงสั้นๆ ว่าขอโทษครอบครัวทางญาติผู้เสียชีวิตด้วย พร้อมทั้ง ทนายเข้าสอบปากคำร่วมในห้องสอบสวนโดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพ
พ.ต.อ.ประเวศ ศรีนาค ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา เผยว่า หลังจากที่นายศรีกรุง ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุแล้วได้หลบหนีด้วยรถยนต์กระบะ พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็น 11 มม. พร้อมเงินจำนวน 10,000 บาท ที่ได้ยืมเพื่อนที่รู้จักก่อนที่จะมาก่อเหตุ ทางด้านชุดสืบสวนได้แกะรอยและกดดันอย่างหนัก จนผู้ต้องหาได้ติดต่อเข้ามอบตัวต่อทาง พ.ต.อ.ธนกฤต กนิษฐกุล ผกก.กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา หลังจากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหามาส่งมอบให้ พ.ต.อ.ประเวศ ศรีนาค ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อทำการส่งให้พนักงานสอบสวนทันที
ส่วนสาเหตุนั้นเป็นคำกล่าวอ้าง ผู้ต้องหาเผยว่า ได้คบหากับผู้เสียชีวิตมานานแล้ว และผู้เสียชีวิตได้ทำงานอยู่ร้านสะดวกซื้อ โดยก่อนก่อเหตุผู้เสียชีวิตได้บอกกับตนว่าจะกลับไปบ้านโดยลางานไป 2 อาทิตย์ พอกลับมาทำงานที่ร้านสะดวกซื้อตนเองมาทราบข่าวว่าผู้เสียชีวิตได้ไปแต่งงานและจดทะเบียนกับชายหนุ่มใหม่ ตนจึงเกิดความโมโห และแค้นใจ จึงได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ขณะนี้ได้อาวุธปืน 11 มม. ของผู้ต้องหาที่ใช้ก่อเหตุแล้ว แต่จะต้องนำไปพิสูจน์หลักฐานว่าใช่ปืนกระบอกเดียวกันไหม และทางผู้ต้องหาปฏิเสธที่จะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
