ศูนย์ข่าวนครราชสีมา– โผล่อีกราย! เหยื่อถูก “ทนายกฤษณะ” หรือทนายของแม่แตงโม หลอกแม่ค้าโคราชเอาเงินไปประกันตัวผู้ต้องหาบอกจะให้คืนพร้อมดอกเบี้ยใน 15 วัน สูญเงิน 1.1 แสน เหยื่อแจ้งความดำเนินคดีนาน 4 ปี เห็นเป็นข่าวดังรีบโทรฯไปทวงเงิน “ทนายแม๊” ยอมรับผิด ขอโอกาสอีกครั้ง รับปากจะคืนเงินให้ 5 เม.ย.นี้
วันนี้ (11 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางโอ๋ (นามสมมติ) อายุ 48 ปี อาชีพค้าขาย ชาวอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่ถูก นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายความ ที่ นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของดาราสาวแตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ ที่เสียชีวิตปริศนา แต่งตั้งเป็นทนายทำคดีการเสียชีวิตของแตงโมอย่างเป็นทางการ ได้เดินทางมาพบกับผู้สื่อข่าวให้ช่วยประสานงานกับทนายกฤษณะ เพื่อติดตามเงินที่ทนายคนดังได้หลอกเอาไปรวมกว่า 1 แสนบาทไม่ยอมคืน ตั้งแต่เมื่อปี 2560 และแจ้งความดำเนินคดีไว้นาน 4 ปีแล้ว
โดยระหว่างพูดคุยกับผู้สื่อข่าว นางโอ๋ ได้โทรศัพท์ไปหา ทนายกฤษณะโดยตรง ซึ่งทนายกฤษณะได้รับสาย และมีทีท่าจำเสียงของนางโอ๋ ไม่ได้ ก่อนที่นางโอ๋จะถามว่า จำพี่โอ๋ได้มั้ย ที่เคยอยู่คอนโดมิเนียม ที่ จ.อุดรธานี ทำให้ ทนายกฤษณะ นึกออก และจำนางโอ๋ได้ทันที
ทั้งนี้ทั้ง 2 คนได้โทรศัพท์พูดคุยกันดังนี้
นางโอ๋ - ทนายกฤษณะ จำพี่ได้มั้ยคะ
ทนายกฤษณะ- เอ่อ คืออย่างนี้นะครับ ช่วงนี้ผมเบลอมากเลย แนะนำตัวเลยได้มั้ยครับ คือตอนนี้ผมโดนอัดหลายทางมากเลย
นางโอ๋ - ทนายกฤษณะจำพี่ได้มั้ย พี่โอ๋ที่อยู่คอนโดฯ ที่ อุดรธานีนะคะ
ทนายกฤษณะ- อ๋อ พี่โอ๋ครับ
นางโอ๋ - ว่าไงคะเงินของพี่ ที่เคยเขียนเช็คให้พี่ด้วย
ทนายกฤษณะ- คือของพี่ ยอดเท่าไรนะครับ คือผมเคลียร์ไปส่วนหนึ่ง ให้ทางสารวัตรเค้าไปนะครับ พี่ได้รับมั้ยครับพี่ ที่ผมโอนไป คือของพี่มัน 30,000 ใช่มั้ยครับพี่
นางโอ๋ – เช็คใช่มั้ยคะ
ทนายกฤษณะ- ใช่ครับ ที่ผมชำระไปคือ 20,000 ที่ผมให้ทางร้อยเวรไปนะครับพี่
นางโอ๋- เห็นพี่คุยกับร้อยเวรวันก่อน เห็นร้อยเวรบอกว่า 10,000
ทนายกฤษณะ- อ้อ 10,000 ใช่มั้ยครับพี่ คือ ผมต้องกราบขอโทษพี่จริงๆ ตอนนั้นสถานการณ์ผมร่อแร่จริงๆ ผมเลยต้องมูฟก่อน แต่ตอนนี้ผมขอโอกาสพี่อีกสักครั้งหนึ่ง เพราะตอนนี้มันคดีใหญ่ และผมก็เสี่ยงอันตราย แต่ผมก็ยังทำต่อ งั้นผมขอเคลียร์พี่สิ้นเดือนนี้นะครับพี่
นางโอ๋- สิ้นเดือนนี้ (มี.ค.) นะคะ จ่ายหมดเลยนะคะ
ทนายกฤษณะ- ใช่ครับพี่ พอดีผมมีค่าคดีเข้ามาอยู่ครับ เอ่อ ผมขอโทษครับพี่ ผมขอเป็นวันที่ 5 (เม.ย.) เพราะวันที่ 1 ผมยังไม่ได้เงิน แต่วันที่ 5 ผมได้เงินครับพี่ พี่ช่วยบันทึกหมายเลขโทรศัพท์ผม แล้วมันจะขึ้นไลน์ แล้วพี่ส่งหมายเลขบัญชีมาให้ผมเลย ผมเคลียร์พี่คือ 20,000 วันที่ 5 เมษายนนะครับพี่ ผมกราบขอโทษพี่อีกครั้งหนึ่งนะครับพี่ แล้วผมจะไม่ทำเหมือนเดิมอีกแล้วนะครับพี่ ตอนนี้ผมก็มาทำคดีใหญ่ด้วย ผมก็จะระมัดระวังมากขึ้น และก็ทำตรงนี้ให้จบนะครับพี่
หลังจากนั้น นางโอ๋ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับนายกฤษณะ ครั้งแรกเมื่อช่วงปี 2560 ซึ่งขณะนั้นตนพักอาศัยอยู่ที่คอนโดมีเนียมแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี และทนายกฤษณะทำงานอยู่ที่สำนักงานทนายความแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณหน้าคอนโดฯ ที่ตนพักอาศัยอยู่ โดยตนเคยเข้าไปติดต่อปรึกษาเรื่องคดีกับทนายกฤษณะ แต่ยังไม่ได้ตกลงทำคดีกันแต่อย่างใด และในวันเดียวกันนั้น ทนายกฤษณะ ได้โทรศัพท์มาสอบถามตนว่า ตนอยากมีรายได้พิเศษไหม เป็นการเอาเงินไปช่วยประกันตัวผู้ต้องหา ซึ่งจะคืนเงินทั้งหมดให้พร้อมกับดอกเบี้ยภายใน 15 วัน
ตนสนใจ จึงโอนเงินให้ทนายกฤษณะไปครั้งแรกจำนวน 50,000 บาท และในวันต่อมา ทนายกฤษณะได้โทรศัพท์ติดต่อมาอีก และบอกว่าจะประกันตัวผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก ตนจึงโอนเงินให้อีกเป็นครั้งที่สอ 2 จำนวน 50,000 บาท จากนั้นถัดมาอีก 1 วัน ทนายกฤษณะก็ได้โทรศัพท์มาของเงินตนเพิ่มอีก แต่ตนบอกว่าไม่มีเงินแล้ว มีเงินเหลือเพียง 10,000 บาทเท่านั้น ซึ่งทนายกฤษณะ บอกว่า อย่างนั้นเอามา 10,000 บาทก็ได้ ตนจึงโอนเงินให้ไปอีก 10,000 บาท รวมเป็นเงินที่โอนให้ทนายกฤษณะไปเป็นจำนวน 110,000 บาท
จากนั้นไม่เคยได้เงินจากทนายกฤษณะคืน ติดต่อไปก็บ่ายเบี่ยง และไม่เคยพบหน้ากับทนายกฤษณะอีกเลย ตนจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ซึ่งตำรวจได้ติดต่อทนายกฤษณะให้มาเจรจาค่าเสียหาย โดยทนายกฤษณะได้ตกลงคืนเงินให้กับตนเป็นจำนวน 30,000 บาท พร้อมกับมอบเช็คเงินจำนวน 30,000 บาทมาให้ แต่เมื่อนำเช็คไปขึ้นเงินปรากฏว่าเช็คเด้ง ไม่สามารถขึ้นเงินได้
ล่าสุดตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามร้อยเวรเจ้าของคดีทราบว่า ทนายกฤษณะได้ฝากเงินให้ไว้จำนวน 10,000 บาท แต่ตนยังไม่ได้ไปรับเงิน พอตนเห็นเป็นข่าวดังก็เลยรีบโทรศัพท์ไปทวงเงินกับทนายกฤษณะเพื่อหวังได้เงินคืนดังกล่าว