อุดรธานี - พี่เขยหื่นบุกห้องหวังข่มขืนน้องเมียติดโควิดมอบตัวแล้วหลังเป็นข่าว น้องเมีย ซึ่งเป็นผู้เสียหายเผยพี่สาวขอร้องไม่ให้เอาเรื่องผัวกลัวถูกแก้แค้นภายหลัง ยันหลังรักษาโควิดหายจะหนีไปหางานทำต่างจังหวัด ไม่อยากเห็นหน้าให้อึดอัด
จากกรณีนายชัยยุทธ ชมจันทร์ หรือ “ยุทธ” อายุ 42 ปี ชาวบ้านโยธา อ.หนองหาน จ.อุดรธานี บุกเข้าไปในห้องที่น้องเมียคือ น.ส.สุดสวย อายุ 18 ปี กักตัวที่บ้านกลางทุ่งนา โดยพยายามจะบังคับข่มขืน ทั้งๆ ที่น้องเมียติดโควิด แต่การบุกข่มขืนครั้งนี้ไม่สำเร็จเพราะเมียมาเห็นเหตุการณ์ก่อน และนายชัยยุทธได้วิ่งขึ้นรถเก๋งหลบหนีไป ทิ้งหลักฐานเป็นรองเท้าและเงินสดอีกประมาณ 3,000 บาทในห้องน้องเมีย
ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้ (7 มี.ค.) นายชัยยุทธได้เดินทางมาเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านดุง แล้ว โดย น.ส.สุดสวยได้ใส่ชุด PPE เพื่อไปดูหน้าและเซ็นเอกสารที่ สภ.บ้านดุง ขณะที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหานายชัยยุทธ ข้อหาพยายามข่มขืน
น.ส.สุดสวยเปิดเผยว่า ดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายชัยยุทธ ผู้ก่อเหตุได้แล้ว รู้สึกอุ่นใจอย่างมาก ตอนแรกไม่อยากเป็นข่าวเพราะกลัวความปลอดภัยที่เขาขู่จะฆ่าล้างโคตร แต่หลังเป็นข่าวออกไปปรากฏว่าตำรวจเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว และบอกกับตนว่าไม่อยากให้เป็นข่าวอีก ให้จบแค่นี้ และรับปากจะเร่งติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว แต่ตนไม่สบายใจตรงที่พี่สาวที่เป็นเมียผู้ก่อเหตุไม่อยากให้ตนเอาเรื่อง เพราะกลัวสามีจะมาฆ่าล้างโคตรเป็นการแก้แค้น
“ฉันก็คิดว่าในเมื่อญาติพี่น้องไม่อยากให้เอาเรื่องแล้ว ไม่รู้ฉันจะอยู่ในหมู่บ้านไปทำไม หลังจากรักษาติดเชื้อโควิดหายแล้ว ก็จะหนีไปหางานทำที่ต่างจังหวัด จะได้ไม่ต้องเห็นหน้ากันอีก” น.ส.สุดสวยบอก
ด้าน พ.ต.อ.จักรภพ ศรีจันทะ ผกก.สภ.บ้านดุง เปิดเผยคดีนี้สามารถยอมความกันได้ แต่ทางตำรวจก็ทำตามขั้นตอนของกฎหมาย หากตกลงกันไม่ได้ก็จะเรียกมาสอบสวนปากคำเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีในข้อหา “พยายามข่มขืน” ส่วนเรื่องบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านของพี่เขยที่สร้างเอาไว้ และสามารถเข้าออกได้
ส่วนความปลอดภัยของผู้เสียหาย ทางเราได้ส่งชุดสายตรวจออกไปดูแล ตรวจบริเวณรอบหมู่บ้านวันละหลายรอบ ทั้งนี้เพื่อความอุ่นใจของผู้เสียหายและสมาชิกในครอบครัว