เชียงใหม่ - แม่ทัพภาคที่ 3 นั่งหัวโต๊ะประชุมติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง 17 จังหวัดภาคเหนือ หลังพบแนวโน้มคุณภาพอากาศย่ำแย่รุนแรงขึ้นต่อเนื่องเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ทั้งที่จุดความร้อนลดลงจากปีก่อนหน้ากว่า 60% สั่งการกำชับจัดชุดลาดตระเวนป้องกันเข้มงวด โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงไฟไหม้ป่า พร้อมเข้าร่วมระงับเหตุอย่างทันท่วงที
วันนี้ (7 มี.ค. 65) ที่กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า จังหวัดเชียงใหม่ พล.ท.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ เพื่อรับทราบสถานการณ์ แนวทางการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ภายหลังจากที่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาค่าคุณภาพอากาศเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในหลายจังหวัด โดยมี พล.ต.ประสิษฐิพงศ์ มูลดี รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ฝ่ายเสนาธิการกองบัญชาการฯ ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 3 ผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 เปิดเผยว่า ภายหลังกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า (บก.คฟป.ทภ.3 สน.) ตรวจสอบสภาพอากาศในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ห้วง 28 ก.พ.-6 มี.ค. 65 พบว่าภาคเหนือมีค่า PM 2.5 เฉลี่ยอยู่ระหว่าง 40-99 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, ค่า PM 10 ระหว่าง 48-110 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่า AQI อยู่ระหว่าง 61-207 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์ โดยมีค่าเฉลี่ยมากสุดที่ ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน
สำหรับจุดความร้อนในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ (ดาวเทียมระบบ VIIRS) ห้วง 28 ก.พ.-6 มี.ค. 65 พบเกิดจุดความร้อนสะสมจำนวน 1,741 จุด โดยเฉพาะในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์ และจังหวัดลำปาง ส่วนใหญ่เกิดจุดความร้อนในพื้นที่ป่าสงวน จำนวน 693 จุด, พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 679 จุด, พื้นที่เกษตร 171 จุด และพื้นที่เขต ส.ป.ก. 126 จุด นอกจากนี้ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กอ.รมน.จังหวัด 17 จังหวัดภาคเหนือได้ลงพื้นที่ ลาดตระเวนร่วมกับหน่วยงานเพื่อป้องปรามการเผาป่า และการทำแนวกันไฟและร่วมดับไฟกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 249 ครั้ง ขณะที่ชุดปฏิบัติการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน จำนวน 15 ชุด ลงพื้นที่เป้าหมายในการทำแนวกันไฟในพื้นที่เสี่ยง รณรงค์สร้างจิตสำนึกลดการเผาในชุมชน พร้อมร่วมสร้างฝายในพื้นที่ป่าเพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้ป่าต้นน้ำ ลดปัญหาหมอกควัน จำนวน 21 ครั้ง
ในส่วนของการปราบปรามห้วงที่ผ่านมามีการจับกุมผู้กระทำผิดต่อประกาศจังหวัดลำปาง เรื่อง ห้ามเผาป่าและพื้นที่โล่ง ยกเว้นพื้นที่ตามแผนการบริหารจัดการเชื้อเพลิง ที่อำเภองาว จังหวัดลำปาง 1 ราย และที่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก 1 ราย จากการเผาในพื้นที่แปลงเกษตรปลูกไร่อ้อย พื้นที่เสียหายประมาณ 2 ไร่ โดยตั้งข้อกล่าวหาว่า “ฝ่าฝืนประกาศจังหวัด เรื่อง ขอความร่วมมือห้ามเผาในพื้นที่จังหวัดตาก จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทำบันทึกจับกุม และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด เพื่อดำเนินคดี ทั้งนี้ ภาพรวมค่าคุณภาพอากาศ ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 64-6 มี.ค. 65 เกิดจุดความร้อนสะสมในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ จำนวน 14,926 จุด เมื่อเทียบปี 64 (41,471) ลดลง 26,545 จุด คิดเป็น 64.01% เมื่อเทียบปี 63 (64,363) ลดลง 49,437 จุด คิดเป็น 76.81% อย่างไรก็ตาม กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ยังคงติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองห้วงเดือน ม.ค.-เม.ย. 65