xs
xsm
sm
md
lg

โรคห่าโควิดไม่กระทบธุรกิจ สรรพากรเมืองน้ำดำเผยยอดจัดเก็บเกินเป้า 13%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาฬสินธุ์ - สรรพากรพื้นที่กาฬสินธุ์เผยยอดเก็บภาษีปี 64 เกินเป้าที่ตั้งไว้ถึง 13% ระบุเป็นผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐลงภูมิภาค บริษัท ห้างร้าน จำหน่ายเครื่องมือแพทย์ ครุภัณฑ์ป้องกันรักษาโรคโควิด-19 ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเกิดการขยายตัว รวมทั้งผลผลิตทางการเกษตรสูงขึ้น คาดปี 65 ก็น่าจะทำได้เกินเป้า


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ที่ยังคงพบผู้ได้รับเชื้ออย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2562-2565 ส่งผลให้ผู้ประกอบการ ห้างร้านประเภทต่างๆ รวมทั้งนิติบุคคล ประชาชนผู้ใช้แรงงานได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง สถานประกอบการหลายแห่งปิดกิจการไป เนื่องจากต้องรักษามาตรการทางสังคม และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

ขณะเดียวกัน จากการติดตามผลกระทบในส่วนของการจัดเก็บภาษีทั้ง 5 ประเภท คือ ภาษีเงินได้นิติบุคคล, ภาษีหัก ณ ที่จ่าย, ภาษีมูลค่าเพิ่ม, ภาษีธุรกิจเฉพาะ และภาษีอากรแสตมป์ ของสำนักงานสรรพากรพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ กลับพบว่าสามารถจัดเก็บภาษีอยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ถึง 13%


นายอรรถพล ปัจจัย สรรพากรพื้นที่กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในภาพรวมของการจัดเก็บภาษีในปี 2564 ในส่วนของสำนักงานสรรพากรพื้นที่กาฬสินธุ์มีทิศทางที่ดีขึ้น โดยสามารถเก็บภาษีได้สูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ถึง 13% ทั้งนี้ เป็นผลมาจากผู้ประกอบการ ห้างร้าน ได้มีการจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ ครุภัณฑ์ที่ใช้ในการป้องกันและรักษาโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชน

ตลอดจนธุรกิจทางด้านการก่อสร้างหรือรับเหมาที่เข้ามาในระบบมีการขยายตัวมากขึ้น และในส่วนของแหล่งรับซื้อผลผลิตภาคการเกษตร

เช่น โรงแป้งมัน โรงงานน้ำตาล โรงงานเอทานอล ยังดำเนินธุรกิจต่อเนื่อง โดยรับซื้อผลผลิตในราคาสูงและมีปริมาณที่มากขึ้น ขณะที่ในส่วนของการประกอบการด้านเงินกู้ และร้านจำหน่ายจักรยานยนต์ค่อนข้างจะเก็บได้น้อยลง อย่างไรก็ตาม คาดยังจะยืนระดับการเก็บภาษีเกินเป้าที่ตั้งไว้ถึงเดือนตุลาคม 2565


นายอรรถพลกล่าวอีกว่า ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา ทางกรมสรรพากร ได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลหลายรูปแบบ เพื่อเยียวยาผู้ประกอบการ นายจ้าง รวมทั้งประชาชนที่เสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคล เช่น รีบคืนเงินภาษีให้รวดเร็ว เพื่อนำมาใช้ในการครองชีพและใช้ในระบบมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีในส่วนของการลดอัตราดอกเบี้ย ลดอัตราเบี้ยปรับ จัดโครงการชิม ช้อป ใช้ รายละ 3 หมื่นบาท ทั้งนี้ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประกอบการทุกประเภทและประชาชนตามนโยบายรัฐบาล


กำลังโหลดความคิดเห็น