ประจวบคีรีขันธ์ - “พลายบุญช่วย-บุญมี” 2 ช้างดื้อป่าละอูถูกจับใส่ปลอกคอติดตามตัวสัตว์สัญญาณดาวเทียม (GPS-collar) เพื่อทราบเส้นทางการเคลื่อนที่ การหากินด้านนิเวศวิทยาเพื่อเฝ้าระวังป้องกันช้างเข้าสู่เขตชุมชน พร้อมรายงานให้ทางกรมฯทราบ
วันนี้ (1 มี.ค.) นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่าปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่ากลายเป็นปัญหาสำคัญต่อการอนุรักษ์ช้างในปัจจุบัน เนื่องจากมีการขยายตัวของชุมชนอย่างต่อเนื่อง มีการบุกรุกพื้นที่ป่าแหล่งที่อยู่ของช้าง สำหรับอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มีช้างป่ากว่า 180 ตัว อาศัยในพื้นที่ราว 220 ตารางกิโลเมตรทางตอนล่างของอุทยาน ถือว่ามีความหนาแน่นค่อนข้างสูง ช้างจึงต้องออกมาหากินนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์
ขณะที่ใน ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยเฉพาะ “พลายบุญช่วย” และ “พลายบุญมี” ช้างใหญ่เจ้าถิ่นที่มีพฤติกรรมดื้อเกเร ชอบสร้างปัญหาทำลายทรัพย์สินพืชไร่บ้านเรือนของประชาชนเสียหาย ไม่ตอบสนองต่อการขับไล่และการผลักดัน จนต้องจัดเจ้าหน้าที่อุทยาน ร่วมกับทหารชุดเฉพาะกิจจงอางศึกดูแลความปลอดภัยช้าง-คน บริเวณพื้นที่ล่อแหลมเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาช้างป่าเดินข้ามถนนตามเส้นทางสายพุไทร-ไทรเอน สายหลักไปน้ำตกป่าละอู แหล่งท่องเที่ยวใน ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ รวมทั้งภายในชุมชนช่วงกลางคืนที่ช้างชอบออกหากิน
ต่อมามีการเสนอเรื่องขอย้ายช้างป่าทั้ง 2 ตัวในความควบคุมของสัตวแพทย์ไปไว้ยังป่าลึกเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อตัดปัญหา แต่ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากช้างรู้แกวหากคนเข้าใกล้ รวมทั้งปัญหาจากการขนย้ายช้าง ล่าสุด กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีหนังสืออนุมัติให้เจ้าหน้าที่สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 บ้านโป่ง และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ร่วมกันติดตามพฤติกรรม “พลายบุญช่วย” และ “พลายบุญมี” โดยติดปลอกคอติดตามตัวสัตว์สัญญาณดาวเทียม (GPS-collar) เพื่อทราบเส้นทางการเคลื่อนที่ การหากินด้านนิเวศวิทยาเพื่อเฝ้าระวังป้องกันช้างเข้าสู่เขตชุมชน พร้อมรายงานให้ทางกรมฯ ทราบ
มีรายงานว่าเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เจ้าหน้าที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาการจัดการพื้นที่อนุรักษ์สัตว์ป่า สัตวแพทย์ประจำกลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ประเทศไทย และทหารชุดเฉพาะกิจจงอางศึกดำเนินการจับช้าง “พลายบุญช่วย” และ “พลายบุญมี” เก็บตัวอย่างเลือดเพื่อตรวจสุขภาพ พร้อมติดปลอกคอสัญญาณดาวเทียมให้แก่ช้างป่าทั้ง 2 ตัวเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจะให้เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามพฤติกรรม การเคลื่อนที่ เพื่อป้องกันเฝ้าระวังช้างป่าออกหากินนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ต่อไป