ศูนย์ข่าวศรีราชา - เกิดอุบัติเหตุชนสยองริมถนนสุขุมวิท จ.ชลบุรี ขาเข้า กทม. ก่อนถึงด่านชั่งคลองตำหรุ รถบรรทุก 24 ล้อ พุ่งชนกระบะจอดข้างทางก่อนขึ้นเหยียบหลังคายุบ ทำคนขับ และภรรยาดับคู่ ส่วนอา หลานชายรอดปาฏิหาริย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (27 ก.พ.) ได้เกิดอุบัติเหตุรถชนกันบนถนนสุขุมวิท ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงก่อนถึงด่านชั่งน้ำหนักคลองตำหรุ ม.5 ต.คลองตำหรุ อ.เมือง จ.ชลบุรี จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งหลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.ศิวกร จันทะเมนชัย สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองชลบุรี ได้ประสานแพทย์เวร โรงพยาบาลชลบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยไตรคุณธรรมชลบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถพ่วง 24 ล้อบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ยี่ห้อฮีโน่ สีเทาดำ ทะเบียนส่วนหัว 70-8918 ฉะเชิงเทรา ทะเบียนส่วนท้าย 71-2368 ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นของบริษัท เอพี ทรานสปอร์ตเซนเตอร์ จำกัด สภาพล้อหน้าซ้ายเกยขึ้นไปเหยียบอยู่บนหลังคารถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน กอ 1146 สุราษฎร์ธานี
จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตติดคาซากรถ 2 ราย คือ นายกานต์กวี พิชิตชลพันธุ์ อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นคนขับ และ น.ส.กรรณิการ์ พรมทอง อายุ 29 ปี เสียชีวิตอยู่ที่นั่งเบาะหลังคนขับ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้รถเครนขนาดใหญ่ยกรถพ่วงออกเพื่อให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้เครื่องตัดถ่างงัดร่างออกจากซากรถ
จากการสอบ นางนิศารัตน์ นุ้ยปลี อายุ 54 ปี ที่โดยสารมาในรถกระบะคันดังกล่าวและรอดชีวิตพร้อม ด.ช.ออโต้ วัยเพียง 9 ขวบ ซึ่งเป็นลูกชายของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย และได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทราบว่าตนเองเป็นอาของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาหาญาติที่ จ.ชลบุรี ซึ่งขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่อยู่ระหว่างการเดินทางกลับ จ.สุราษฎร์ธานี
แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นช่วงที่รถของตนเองกำลังชะลอเข้าข้างทาง และได้เปิดไฟกะพริบเตือนเพื่อให้รถคันหลังได้รู้ แต่ไม่นานได้ยินเสียงดังโครมก่อนที่หลังคารถจะยุบลงมา จากนั้นตนเอง และหลานชายซึ่งยังอยู่ในอาการตกใจได้คลานออกจากรถโดยที่ยังไม่รู้ว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น
ด้าน นายศักดิ์สิทธิ์ บุญลออ อายุ 28 ปี คนขับรถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ อ้างว่าตนเองเกิดอาการวูบหลังขับรถไปส่งตู้คอนเทนเนอร์ให้ลูกค้าในเขตตัวเมืองชลบุรี และกำลังจะเดินทางกลับ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้งพบว่ารถพุ่งชนกระบะที่จอดอยู่ข้างทาง ก่อนจะเหยียบขึ้นไปบนรถกระบะ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาขับรถโดยประมาทจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตและบาดเจ็บ ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
