กาญจนบุรี - เจ้าอาวาสวัดเหนือ นำคณะมอบเครื่องอุปโภคบริโภค-อุปกรณ์กีฬาให้เด็กๆ กลางป่าทุ่งใหญ่ฯ พร้อมชวนสมทบทุนสร้างสะพานข้ามลำห้วยโรคี่ เพื่อใช้ประโยชน์ในฤดูน้ำป่าไหลหลาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างวันที่ 24-25 ก.พ.65 ที่ผ่านมา พระกิตติสุวัฒนาภรณ์ หรือเจ้าคุณเพิ่ม เจ้าอาวาสวัดเทวสังฆาราม พระอารามหลวง (วัดเหนือ) อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นำคณะของ พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ อดีต ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี นายวสันต์ สุนจิรัตน์ กำนันตำบลช่องสะเดา นายสมรรถกร และนางจันทร์จิรา สระศรี นักธุรกิจชื่อดังชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมทั้งนายออง เงินทอง ประธานชมรมศูนย์หงส์ทองจังหวัดกาญจนบุรี นายเสกสรร นางชุติมา บุญมา และคณะจิตอาสาที่เป็นศิษยานุศิษย์อีกหลายกลุ่มเดินทางไปที่บ้านเกาะสะเดิ่ง หมู่ 3 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
เพื่อร่วมกันนำเครื่องอุปโภคบริโภค อุปกรณ์การเรียนและกีฬามอบให้แก่ชุมชนบ้านเกาะสะเดิ่ง และโรงเรียนบ้านกองม่องทะ ห้องเรียนสาขาบ้านเกาะสะเดิ่ง นอกจากมอบสิ่งของดังกล่าวแล้ว ยังได้ร่วมกันประกอบอาหารทั้งมื้อเย็นและมื้อเช้าให้ทุกคนได้อิ่มหนำสำราญ ทำให้ผู้รับและผู้ให้ต่างมีความสุขกันเป็นอย่างมาก การเดินทางครั้งนี้มีนายอภิวันท์ ไทรสังขสินธิติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ให้การต้อนรับ
สำหรับวัตถุประสงค์ที่พระกิตติสุวัฒนาภรณ์ หรือเจ้าคุณเพิ่ม นำคณะเดินทางไปครั้งนี้นอกจากจะมอบสิ่งของให้เด็กๆ และชาวบ้านแล้ว ยังมีเป้าหมายหลักอยู่อีก 2 เป้าหมาย คือต้องการหาทุนมาสร้างสะพานข้ามลำห้วยโรคี่ ที่ถูกทิ้งมานาน 5-6 ปี หากสร้างแล้วเสร็จจะทำให้ช่วงฤดูน้ำป่าไหลหลากชาวบ้านสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ทั้ง 6 หมู่บ้านของ ต.ไล่โว่ ที่ตั้งอยู่ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก สำหรับงบประมาณที่ต้องใช้ในการสร้างสะพานอยู่ที่ประมาณ 100,000-200,000 บาท
วัตถุประสงค์ที่ 2 คือ หาทุนในการบูรณะซ่อมแซมอาคารเรียนโรงเรียนบ้านกองม่องทะ ห้องเรียนสาขาบ้านเกาะสะเดิ่ง ให้มีความมั่นคงแข็งแรง เมื่อถึงฤดูฝนเด็กๆ จะได้ไม่ลำบากในการเรียน ทั้งนี้ หากประชาชนหรือศิษยานุศิษย์ท่านใดต้องการสมทบทุน สามารถร่วมสมทบทุนกับพระกิตติสุวัฒนาภรณ์ หรือเจ้าคุณเพิ่ม ได้ที่วัดเทวสังฆาราม พระอารามหลวง (วัดเหนือ) อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้ทุกวัน
ทั้งนี้ นายสมรรถกร และนางจันทร์จิรา สระศรี นักธุรกิจชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า หลังทราบข่าวจากไลน์กลุ่มเพื่อนสมาชิกศูนย์หงส์ทองจังหวัดกาญจนบุรี ตนกับภรรยาจึงเดินทางมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพราะต้องการมาร่วมทำบุญ อีกทั้งถือโอกาสนี้มาเยี่ยมญาติที่ ต.หนองขาว อ.ท่าม่วงด้วย
และจากการที่ได้สอบถามทราบว่า การสร้างสะพานต้องใช้งบประมาณมากพอสมควร และหลังจากกลับไปถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตนจะไปเรี่ยไรเงินจากกลุ่มเพื่อนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะดำเนินการได้ แต่อยากจะประชาสัมพันธ์ไปถึงประชาชนชาวไทย รวมทั้งจังหวัดกาญจนบุรี ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดหาเงินทุนคนละเล็กละน้อย เพราะเชื่อว่าการทำบุญหาทุนสร้างสะพานให้คนเดิน ทุกคนจะได้บุญกุศลครั้งใหญ่อีกทางหนึ่งด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลประวัติความเป็นมา พบว่า บ้านเกาะสะเดิ่ง เป็นหมู่บ้านที่กลุ่มชาติพันธุ์ไทยกะเหรี่ยง ตั้งบ้านเรือนมาตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ.2383 บ้านเกาะสะเดิ่ง มีต้นไม้ชื่อต้นเกาะสะเดิ่งเป็นพันธุ์ไม้ที่ขึ้นอยู่ริมห้วย รากยึดเกาะดินได้เป็นอย่างดี จึงให้ชื่อหมู่บ้านว่า “เกาะสะเดิ่ง” ลักษณะหมู่บ้านเป็นชุมชนขนาดเล็ก บนที่ราบริมฝั่งลำห้วยโรคี่ ที่ไหลลัดเลาะตามซอกเขาสูงชันผ่านลงมา ชาวบ้านที่นี่ใช้ชีวิตอยู่คู่กับป่ามานาน ไม่มีการตัดไม้ทำลายป่า จนส่งผลให้ป่าไม้บริเวณที่ตั้งหมู่บ้านยังคงอุดมสมบูรณ์ เป็นส่วนหนึ่งของป่ามรดกโลก
อาณาเขตของหมู่บ้าน ทิศเหนือติดต่อกับบ้านทิไร่ป้า ตำบลไล่โว่ ทิศใต้ติดต่อกับบ้านกองม่องทะ และบ้านสะเนพ่อง ทิศตะวันตกติดต่อกับบ้านสะเน่พ่อง ตำบลไล่โว่ ทิศตะวันออกติดต่อกับผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก หมู่บ้านอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลไล่โว่
