เชียงราย - แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังอาละวาดไม่จบไม่สิ้น..พบ นร.สาวแม่สายวัย 17 ปีโดนมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ทั้งขู่ทั้งหลอกโอนเงิน 2 รอบสูญกว่า 100,000 บาท
วันนี้ (23 ก.พ. 65) พ.ต.ท.จิรโชติ กันทะเนตร สว.(สอบสวน) สภ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้ตรวจสอบหลักฐานกรณี น.ส.ไก่ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ชาว ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ที่กำลังเรียนหนังสืออยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.แม่สาย และพักอยู่บ้านเช่าพื้นที่หมู่ 4 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกคนหลวกลวงให้โอนเงินไปให้จำนวนมาก
น.ส.ไก่เล่าว่า เมื่อเวลา 14.50 น. วันที่ 22 ก.พ. มีผู้หญิงใช้โทรศัพท์หมายเลข +80141093031 อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ บอกว่า DHL สาขาเชียงใหม่ ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า น.ส.ไก่ หรือบุคคลอื่นได้ใช้ชื่อของ น.ส.ไก่ ส่งพัสดุผิดกฎหมายไปจีน ภายในมีหนังสือเดินทาง 14 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 10 ใบ ซ่อนไว้ในเสื้อผ้า 8 ชุด ปัจจุบันมีคนถูกจับดำเนินคดีแล้ว
หญิงที่อ้างเป็นตำรวจคนดังกล่าวจึงแจ้งให้ น.ส.ไก่ ติดต่อกับตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ โดยเปลี่ยนการติดต่อเป็นไลน์วิดีโอ ซึ่งมีเสียงผู้ชายอ้างว่าเป็นตำรวจเช่นกัน ได้สนทนาก่อนโอนสายไปให้กับชายอีกคนหนึ่งที่อ้างว่าเป็น ผกก. จากนั้นได้ให้ดูภาพของคนที่ถูกดำเนินคดี ก่อนถามหาบัญชีธนาคาร หมายเลขบัญชีและเงินที่อยู่ในบัญชี พร้อมให้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 1211249990 ชื่อนายวรชิต เพื่อจะตรวจสอบ
ซึ่ง น.ส.ไก่ ได้หลงเชื่อโอนเงินจากบัญชีธนาคารออมสิน สาขาแม่สาย ไปให้ครั้งแรกจำนวน 95,000 บาท และเวลา 18.14 น.ได้โอนเงินจากบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาแม่สาย ไปให้อีกครั้งจำนวน 12,000 บาท แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ที่อ้างว่าเป็นตำรวจได้อีกเลย
น.ส.ไก่กล่าวว่า กลุ่มคนที่โทรศัพท์มาหาตนได้ข่มขู่ว่าถ้าไม่ดำเนินการจะมีเจ้าหน้าที่ศุลกากรไปตรวจสอบที่บ้าน และยังรู้อีกว่าตนเปิดบัญชีธนาคารเอาไว้ 2 บัญชีแต่เขาแจ้งชื่อธนาคารผิด ทำให้ตนกลัวและอยากให้เรื่องจบลงโดยเร็ว จึงเริ่มแจ้งข้อมูลส่วนตัวโดยเฉพาะชื่อบัญชีธนาคารให้พวกเขารู้
จากนั้นผู้ชายที่บอกว่าเป็นตำรวจได้ทำทีเป็นเข้าไปพบกับ ผกก.และผู้ที่อ้างว่าเป็น ผกก.ก็เริ่มให้ตนโอนเงินเพื่อขอตรวจสอบ โดยอ้างว่าจะโอนคืนมาให้ภายใน 40 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ส่วนสาเหตุที่ตนโอนเงินไปให้ 2 ครั้งเพราะหลังโอนเงินครั้งแรกไปแล้วผู้ที่อ้างว่าเป็นตำรวจได้ให้โอนอีก 12,000 บาท จนตนยืมเงินคนอื่นโอนเพิ่มเติมให้
“ตอนหลังเริ่มเอะใจสงสัยจึงได้แจ้งพ่อแม่ให้ทราบ และให้พ่อแม่คุยกับผู้ที่อ้างว่าเป็นตำรวจดังกล่าวด้วย แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะได้โอนเงินไปหมดแล้ว จากนั้นก็ติดต่อกลับไปไม่ได้อีกเลย”
ด้านนายลาพิง อายุ 51 ปี บิดาของ น.ส.ไก่ กล่าวว่าหลังจากที่ตนพูดคุยโทรศัพท์กับคนที่อ้างว่าเป็นตำรวจตนก็รู้ทันทีว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงพยายามไปอายัดบัญชีและบอกเขาไปว่าจะจัดการเรื่องนี้เองที่ สภ.แม่สาย แต่เขาก็บอกให้ไปจัดการเอาเองจากนั้นก็วางสายไป และเมื่อตนกลับมาถามลูกสาวก็ทราบว่าได้โอนเงินไปหมดแล้วจึงเห็นว่ารู้ไม่เท่าทันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งๆ ที่กำลังเป็นข่าวดังไปทั่วอยู่แล้ว
