อุทัยธานี - พบแม่ลูก 4 ชีวิตต้องอาศัยหลับนอนในศาลาหมู่บ้านในอุทัยธานี ยังชีพด้วยข้าวก้นบาตรจากพระ-ความช่วยเหลือจากชาวบ้าน หลังเจ้าของบ้านเช่าปรับปรุงบ้านใหม่ ไม่มีเงินหาที่เช่าใหม่ เคยย้ายไปอยู่โรงเรียนร้าง อำเภอฯ ก็ใช้เป็นศูนย์พักพิงผู้ป่วย
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ครอบครัวหญิงรายหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 1 บ้านเขาน้อย ต.โคกหม้อ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี กำลังเดือดร้อนเลี้ยงดูลูกน้อยเพียงลำพังถึง 3 คน รายได้ไม่เพียงพอต่อการยังชีพ จนสุดท้ายต้องกลายเป็นครอบครัวไร้ที่อยู่อาศัย พักในอาคารโรงเรียนร้าง ก่อนย้ายมาอยู่ในศาลาหมู่บ้าน และยังชีพด้วยข้าวก้นบาตรพระ
เมื่อลงพื้นที่ไปตรวจสอบพบนางสาววันทา เรืองอยู่ อายุ 47 ปี พร้อมกับลูกทั้ง 3 คน ที่ปัจจุบันอาศัยอยู่หลับนอนกันในศาลาหมู่บ้าน พร้อมเปิดเผยถึงเรื่องราวของตัวเองว่า ก่อนหน้านี้เคยเช่าบ้านอาศัยอยู่กับลูกๆ ทั้ง 3 คน แต่ต่อมาทางเจ้าของบ้านเช่าได้แจ้งกับตนเองว่าจะซ่อมแซมบ้านเช่าใหม่ จึงต้องย้ายออกมา
แต่ด้วยสภาวะเศรษฐกิจในตอนนี้ทำให้ไม่มีเงินมากพอที่จะไปเช่าบ้านเดือนละหลายพันบาทอยู่ได้ จึงตัดสินใจพาลูกชายทั้ง 3 คนเร่ร่อนหาที่พักอาศัยตามที่ต่างๆ ในหมู่บ้านนี้ไปเรื่อยๆ เพราะไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง โชคดีตอนนี้ได้งานรับจ้างเลี้ยงหมูในหมู่บ้าน มีรายได้วันละ 300 บาท
สาเหตุที่ไม่ออกไปหาบ้านเช่าอยู่ที่อื่นเพราะอยากให้ลูกๆ นั้นได้เรียนหนังสือไม่อยากให้ลูกย้ายโรงเรียนไปเรื่อยๆ อีกแล้ว ตอนนี้ลูกคนเล็กอยู่ชั้นอนุบาล คนกลางอยู่ชั้น ป.4 และคนโตอยู่ชั้น ป.6 โดยก่อนหน้านั้นตนเองมีลูกถึง 5 คน แต่ได้มีครอบครัวไปแล้ว 2 คน ซึ่งลูกๆ 2 คนก็ประกอบอาชีพรับจ้างเหมือนกัน จึงทำให้ไม่มีรายได้มากพอที่จะส่งเสียแม่และน้องๆ ได้
นางวันทนาเล่าอีกว่า ดิมทีตนอาศัยอยู่ที่จังหวัดกำแพงเพชร หลังจากเลิกรากับสามีจึงตัดสินใจหอบลูกเร่ร่อนเรื่อยมา จนมาอยู่ในพื้นที่หมู่ 1 บ้านเขาน้อย ต.โคกหม้อ อ.ทัพทัน มานาน 11 ปีแล้ว มีรายได้จากการรับจ้างทำงานทั่วไป ใครให้ทำอะไรทำหมดไม่เกี่ยงงาน
นายพรดล เชื้อเขตกรรม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 บ้านเขาน้อย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้นางสาววันทาและลูกๆ ได้เช่าบ้านหลังหนึ่งอยู่ในหมู่บ้าน แต่ทางเจ้าของบอกว่าจะปรับปรุงบ้าน จึงขอให้นางสาววันทาออกไปก่อน และเคยไปอาศัยอยู่ที่โรงเรียนชุมชนบ้านโคกหม้อ ซึ่งเป็นโรงเรียนร้าง แต่ต่อมาทางอำเภอใช้ทำเป็นศูนย์พังพิงผู้ป่วยโควิด-19 จึงต้องหอบลูกออกมาและย้ายไปทั่วโดยไม่มีหลักแหล่ง หลังทราบเรื่องตนและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านก็รู้สึกเห็นใจจึงให้มาอาศัยอยู่ที่ศาลาอเนกประสงค์หมู่บ้านไปก่อน
ด้านอาหารนั้น ส่วนใหญ่ทางวัดก็จะนำมาให้นางวันทาและลูกๆ เพื่อประทังให้อยู่รอดไปก่อน รวมไปถึงชาวบ้านก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจ ก็พากันช่วยเหลือทางครอบครัวนี้ ถ้าใครผ่านมาก็จะนำกับข้าวมาให้กิน รวมถึงข้าวสารอาหารแห้งด้วย เพียงแต่เวลาประชุมในหมู่บ้านหรือใช้ศาลาจัดงานต่างๆ ทางนางวันทาก็จำเป็นจะต้องเก็บข้าวของออกไปก่อน จนกว่าจะใช้สถานที่เสร็จแล้วจึงจะขนของเข้ามาอยู่ใหม่อีกครั้ง
ในตอนนี้นางวันทาอยากมีที่อยู่เป็นบ้านหลังเล็กๆพอให้ลูกชายทั้ง 3 คนได้อาศัยอยู่เป็นหลักแหล่ง จึงอยากวอนขอให้หน่วยงานต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องเข้ามาช่วยในเรื่องดังกล่าว