สระบุรี - ครอบครัวคาใจ 2 แม่ลูกตายทั้งกลมหลังทำคลอด รพ.ดังสระบุรี ยืนยันจะเรียกร้องขอความเป็นธรรมโดยยังไม่ยอมเผาจนกว่าจะได้รับคำตอบจาก รพ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จากกรณีที่ นายบัณฑิต ปานนาศรี สามี และนางสายใจ ปานนาศรี แม่ และญาติๆ พากันร้องสื่อว่า 2 แม่ลูกดับหลังทำคลอด รพ.ดังใน จ.สระบุรี โดย น.ส.กรรณิกา รัตกุล อายุ 31 ปี ได้มาทำคลอด จากนั้นลูกน้อยได้เสียชีวิตภายในครรภ์ โดยหมอไม่ยอมผ่าเด็กออก ปล่อยให้แม่นั่งรอจนแม่เสียชีวิต ญาติพากันคาใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงได้นำแม่และเด็กผ่าพิสูจน์ที่ศูนย์ธรรมศาสตร์รังสิต จากนั้นได้นำศพ 2 แม่ลูกมาตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่บ้านเลขที่ 43/1 ม.6 ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี เป็นเวลา 4 คืน
ล่าสุด วันนี้ (20 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังวัดโนนสภาราม ม.2 ต.กุดนกเปล้า อ.เมือง จ.สระบุรี ซึ่งจัดพิธีฌาปนกิจศพ น.ส.กรรณิกา รัตกุล และลูกน้อยที่เสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ซึ่งภายในงานมีญาติพี่น้อง มาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก พร้อมด้วย นายวิเชียร ระดมสุทธิศาล รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสระบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลสระบุรี จากนั้นเวลา 16.00 น.จึงได้เริ่มพิธีทางศาสนา เมื่อเสร็จพิธีทางญาติได้นำศพของ 2 แม่ลูกเก็บไว้เพื่อที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมให้ 2 แม่ลูกที่เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้
นางสายใจ ปานนาศรี แม่สามีเผยว่า วันนี้ตนได้นำศพของลูกสะใภ้มาทำพิธีทางศาสนา จากนั้นจะนำศพบรรจุ และเก็บไว้ก่อน เนื่องจากว่าเรื่องการเยียวยาทาง รพ. หรือหน่วยงานต่างๆ ยังไม่ได้เข้ามารับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น มีเพียง รพ.สระบุรี ที่เข้ามาฟังสวดพระอภิธรรม และร่วมเป็นเจ้าภาพในคืนที่ผ่านมา พร้อมกับร่วมแสดงความเสียใจ ในส่วนที่ตนเอง และลูกชายได้ไปร้องที่รัฐสภานั้น เพื่อที่จะเร่งรัดผลการผ่าพิสูจน์ของลูกสะใภ้ เนื่องจากผลการผ่าพิสูจน์นั้นยังไม่ออกมา ต้องรอผล 15 วัน ถึง 2 เดือน จึงจะทราบ ตนจึงได้ไปยื่นเอกสาร
ส่วนสาเหตุที่เก็บศพไว้ก่อนนั้น สิ่งที่ต้องการ คือ อยากทราบสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสะใภ้ และหลาน เรื่องเวชระเบียง ซึ่งทาง รพ.นำมาให้แล้ว เรื่องการเยียวยา การดูแล เราต้องการทราบว่า หลานของตนเสียชีวิตเพราะอะไร ซึ่งยังไม่มีใครให้คำตอบได้ แม้กระทั่งตัวหมอเองยังไม่ได้เข้ามาชี้แจง ซึ่งในใบแจ้งตายลงไว้ว่ายังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต ทำให้ตนเองสงสัย โดยหลังจากเสร็จงานในวันนี้ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนเองและลูกชายจะเดินหน้าต่อ ซึ่งอาจต้องนำโลงศพลูกสะใภ้ และหลานไปตั้งหน้า รพ.สระบุรี เพื่อแจ้งให้เราทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง