ศูนย์ข่าวศรีราชา - กลุ่มพลังมวลชนแห่ให้กำลังใจ "สุชาติ" หลังเจอกระแสดรามาบ้านใหญ่ ยันยืนหยัดต่อสู้กับ พปชร. ดัน "ลุงตู่" นายกฯ อีกสมัย ชี้ถึงเวลาชาวชลบุรีต้องเลือกนักการเมืองแบบเดิม หรือจับต้องได้ เผยวันนี้จบแล้วไม่มีนิทานตอนต่อไป
วันนี้ (20 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มพลังมวลชนกว่า 1,000 คน ได้นำดอกกุหลาบและกระเช้าของขวัญเดินไปให้กำลังใจ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่สำนักงานพรรคพลังประชารัฐ เขต 1 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี หลังเกิดกระแสดรามากลุ่มบ้านใหญ่
ขณะที่ นายสุชาติ เผยว่า จากการทำงานร่วมกับผู้นำท้องถิ่นใน จ.ชลบุรี มาตั้งแต่ปี 2550 จนได้รับเลือกให้เป็น ส.ส. ตนเองได้ทำงานแบบครอบครัว และพี่น้อง ไม่ใช่ทำงานในลักษณะลูกพี่กับลูกน้อง ซึ่งการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นย่อมต้องมีการแข่งขันอยู่แล้ว และเมื่อตนเองอยู่กับใครก็จะต่อสู้ให้แบบถวายหัว ซึ่งในทางการเมืองเมื่อมีอุดมการณ์ตรงกันเรื่องการทำเพื่อชาติบ้านเมืองตนเองพร้อมที่จะสนับสนุน โดยเฉพาะการสนับสนุนให้ “ลุงตู่” เป็นนายกรัฐมนตรีอีก 1 สมัย
“หากใครมีแนวคิดเดียวกันก็อยู่ด้วยกันได้ แต่หากอุดมการณ์ไม่ตรงกันอยู่ด้วยกันไม่ได้ โดยมองผลประโยชน์ของบ้านเมืองและประเทศชาติเป็นหลัก ไม่มีธุรกิจเกี่ยวกับการเมืองแน่นอน ยืนยันว่าทุกคนจะต้องเสียสละเพื่อบ้านเมือง”
นายสุชาติ ยังเผยถึงการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นว่า ถือเป็นสิ่งที่ชาวชลบุรีต้องพิสูจน์ว่าจะเลือกนักการเมืองแบบใด โดยจะเลือกการเมืองในกลุ่มเดิมที่ไม่มีอะไรพัฒนา หรือจะเลือกแบบที่ประชาชนพึ่งได้ ซึ่งตนเองมักบอกอยู่เสมอว่านักการเมืองยิ่งสูงต้องทำตัวให้ต่ำ แต่ถ้าตำแหน่งสูงแล้วทำตัวสูงส่งจนพี่น้องประชาชนจับต้องไม่ได้ ก็คือความหายนะของนักการเมืองในอนาคต
“นักการเมืองจะต้องเสียสละทั้งทรัพย์สินส่วนตัวและเวลาที่เคยให้ครอบครัว เพราะอาสามาเป็นตัวแทนให้ประชาชนแล้วจะต้องทำงานอย่างเต็มที่ วันนี้ถึงเวลาเหมาะสมแล้วที่ชาวชลบุรีจะเป็นผู้ตัดสิน และในฐานะที่เป็น ผอ.การเลือกตั้งของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคแกนหลักในการจัดตั้งรัฐบาลหากจังหวัดอื่นพร้อมหมด จ.ชลบุรี จะไม่พร้อมได้อย่างไร”
นายสุชาติ ยังเผยอีกว่า ขณะนี้ตนเองได้รับมอบหมายจาก พลอ ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้เป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งใน จ.ชลบุรี และเป็น ผอ.การเลือกตั้งของพรรค จึงต้องดำเนินการภารกิจให้ลุล่วง
“การเป็นนักการเมืองที่เป็นผู้นำเมื่อประชาชนมีความเดือดร้อนอย่างไรจะต้องช่วยเหลือในทันที ไม่ใช่ทำตัวแบบเลือกตั้งครั้งหนึ่งแล้วมาพบประชาชน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นใครจะคบกับพวกเรา และหากเป็นนักการเมืองมา 4 ปีแล้วไม่ทำอะไรอย่างนี้จะอยู่ในสังคมได้อย่างไร วันนี้ จ.ชลบุรี จะเปลี่ยนแปลงอย่างไรชาวชลบุรี จะเป็นผู้ตัดสินใจ”
และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จากนี้ไปจะมีนิทานตอนต่อไปหรือไม่นั้น นายสุชาติ ตอบว่าตนเองจบแล้ว และหลังจากนี้จะตั้งหน้าตั้งตาเตรียมตัวเลือกตั้ง โดยคาดว่าเวลาที่เหลืออีก 1 ปีจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ชาวชลบุรี จะเลือกการเมืองแบบเดิมๆ หรือจะเลือกนักการเมืองที่เสียสละเพื่อบ้านเมืองและมีความชัดเจนคือ ทำเพื่อประชาชน และสามารถจับต้องได้ในเรื่องของการทำงาน
