ประจวบคีรีขันธ์ - ศาลประจวบฯ ออกหมายจับผู้ใหญ่บ้านหญิง ขับเก๋งนำขบวนเคลียร์เส้นทางพา 159 แรงานเถื่อนชาวพม่า ส่งโรงงานมหาชัย ขณะที่นายหน้าชาวพม่าเผยรับค่าจ่างหัวละ 2 พันบาท ยืนยันว่ามีการจ่ายส่วยรายทางให้เจ้าหน้าที่แล้วด้วยสัญลักษณ์รูปเหยี่ยว และเสือ ติดไว้ที่หน้ากระจกรถเก๋งผู้ใหญ่บ้าน
จากกรณี กก.ตชด.ที่ 14 ค่ายพระมงกุฎเกล้า ต.ห้วยทราย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายหน่วยจับกุมแรงงานเถื่อนชาวพม่าหลบหนีเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติ ที่หมู่บ้านหุบผึ้ง หมู่ 5 ต.ห้วยทราย ผู้ต้องหา 159 คน จับกุมที่ถนนทุ่งเคล็ด-ด่านสิงขร หมู่ 6 บ้านทุ่งเคล็ด ต.เกาะหลัก จำนวน 23 คน ที่หมู่ 9 บ้าน กม.12 ต.อ่าวน้อย จำนวน 19 คน จับชาวพม่า 77 คน ที่หมู่ 9 บ้านมะขามโพรง ต.เกาะหลัก รวมชาวพม่าลักลอบเข้าเมืองทั้งหมด 278 ราย พร้อมยึดรถกระบะด้านหลังเป็นตู้ทึบ 5 คัน รถเก๋ง 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ล่าสุด บ่ายวันนี้ (18 ก.พ.) ศาล จ.ประจวบคีรีขันธ์ อนุมัติหมายจับที่ จ.15/2565 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 ให้จับกุมนางวันเพ็ญ ขาวคง อายุ 45 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 บ้านดอนทราย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมสามี นายชัยยุทธ หรือเสี่ยหมึก น้อมนอบ อายุ 46 ปี ข้อหาร่วมกันนำพาคนด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิด พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ขณะนี้ผู้ต้องหายังไม่ติดต่อเข้ามอบตัวแต่อย่างใด
ต่อมา พ.ต.ท.สุเทพ จามิกร พนักงานสอบสวน สภ.คลองวาฬ อ.เมือง ได้แจ้งหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สภ.หากพบตัวให้ทำการจับกุมได้ทันที หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมแรงงานเถื่อนให้การยืนยันตัวบุคคล มีนายชัยยุทธ เป็นผู้ขับรถเก๋งนำขบวนขนแรงงานต่างด้าวเถื่อนในคืนเกิดเหตุ โดยมีผู้ใหญ่บ้านนั่งในรถ โดยชุดจับกุมได้ควบคุมตัวไว้ แต่ 2 สามีภรรยาอาศัยช่วงชุลมุนวิ่งหลบหนี
จากนั้นเจ้าหน้าที่ ตชด. ได้ยิงปืนขึ้นฟ้า 4 นัดเพื่อควบคุมสถานการณ์ แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมหยุดโดยวิ่งเข้าป่าละเมาะข้างทาง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่ามีบุคคลอื่นใช้ยานพาหนะพาหลบหนี ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวเพื่อนำไปสอบปากคำ
ด้านนายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ได้เดินทางมาที่อำเภอ เพื่อให้ปากคำต่อคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงระดับอำเภอ จากนั้นปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าแรงงานเถื่อน แต่มีบุตรชายนำรถเก๋งไปใช้ในวันเกิดเหตุ หลังจากนี้จะรวบรวมข้อมูลเสนอให้จังหวัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนระดับจังหวัด และหลังจากศาลมีหมายจับ ได้สั่งให้ผู้ใหญ่บ้านหยุดปฏิบัติหน้าที่
นายเรวัฒน์ สุขหอม สาธารณสุขอำเภอเมืองประจวบฯ กล่าวว่า ผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR พบแรงงานเถื่อนติดเชื้อจำนวน 59 ราย ขณะนี้โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ อยู่ระหว่างการจัดหาสถานที่โรงพยาบาลสนามเพื่อทำการรักษา
และคาดว่าการตรวจซ้ำในครั้งต่อไปจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม ส่วนงบประมาณในการตรวจหาเชื้อกว่า 5 แสนบาท จะเบิกจ่ายจากงบของทางราชการ
จ่าเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านการทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการติดตามผลการสอบสวนนางวินนีลิ ชาวพม่า อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาที่รับจ้างจากนายหน้าคนไทยให้มารับแรงงานเถื่อนที่ด่านสิงขร ได้รับค่าจ้าง 2,000 บาทต่อคน ไปส่งที่ จ.สมุทรสาคร โดยยืนยันว่ามีการจ่ายส่วยรายทางให้เจ้าหน้าที่แล้ว โดยนำสติกเกอร์ รูปเหยี่ยว และรูปเสือติดไว้ที่หน้ากระจกรถเก๋งผู้ใหญ่บ้าน ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยในเส้นทางผ่านจะไม่จับกุม กรณีนี้ขอเรียกร้องให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ฝ่ายความมั่นคง ให้ความสนใจเร่งสอบข้อเท็จจริงขยายผลถึงขบวนการค้าแรงงานเถื่อน อย่าให้เป็นมวยล้มต้มคนดูเหมือนที่ผ่านมา เพราะเชื่อว่ายังมีบุคคลอื่นร่วมขบวนการมากกว่าผู้นำท้องที่เพียงรายเดียว
