หนองคาย - มิจฉาชีพชายหญิงอาละวาดที่หนองคาย ฝ่ายชายทำทีขอซื้อทองไปฝากญาติ ฝ่ายหญิงไปธนาคารเอาเช็คเข้าบัญชีร้านทอง 2.9 ล้านบาท เจ้าของร้านโทร.ถามธนาคาร บอกมีตัวเลขเข้าบัญชีแล้ว จึงให้ทองรูปพรรณไป 200 บาท รู้ตัวอีกทีเป็นเคลียริ่งเช็ค ตำรวจรู้ตัวคนร้ายแล้ว เคยก่อเหตุมาก่อน เร่งล่าตัว
เมื่อเวลาประมาณ 12.45 น. วันนี้ (10 ก.พ.) ร.ต.อ.กฤษณะ ธรรมจิตร รองสารวัตร (สอบสวน) ได้รับแจ้งจากร้านทองศรีรุ่งเรือง เลขที่ 365 ถนนมีชัย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.หนองคาย ว่ามีชายไทยเข้ามาหลอกเอาทองในร้าน จึงได้ออกตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย, พ.ต.ต.อัครเดช พรมโสภา สวป. ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บลายนิ้วมือของผู้ต้องสงสัย
พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย กล่าวว่า พฤติการณ์ในคดีนี้ มีชายไทย สวมเสื้อเชิ้ตสีดำ กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนังสีดำ สวมหน้ากากอนามัยสีดำ รูปร่างผอม สูง ประมาณ 170 เซนติเมตร ผมรองทรงยาว เข้าไปในร้านทองศรีรุ่งเรืองแจ้งกับทางร้านว่าต้องการซื้อทองไปแจกให้ญาติพี่น้อง โดยจะมีคนโอนเงินเข้าบัญชี สักพักแจ้งทางร้านว่ามีคนโอนเงินเข้าบัญชีแล้ว ทางเจ้าของร้านทองได้โทรศัพท์ติดต่อกับธนาคารขอให้ตรวจสอบเงินเข้าบัญชี
ทางธนาคารก็แจ้งว่ามีตัวเลขเงินในบัญชีแล้ว 2.9 ล้านบาท ทางร้านจึงได้นำทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 200 บาท ให้คนร้ายไป ประมาณ 15 นาที เจ้าของร้านได้ตรวจสอบเงินพบว่าเป็นการนำเงินเข้าบัญชีโดยเช็คเคลียริ่ง ซึ่งยังไม่สามารถเบิกเงินออกมาได้ ทำให้รู้ตัวว่าน่าจะถูกหลอก จึงได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจ
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในร้านทอง ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบว่ามีคนร้ายปกปิดใบหน้า ทางร้านไม่ได้ขอดูบัตรประจำตัวประชาชนของคนร้ายและไม่ได้ขอให้เปิดหน้าให้ทางร้านดู ซึ่งคนร้ายได้เขียนชื่อคาดว่าจะเป็นชื่อปลอมให้ทางร้าน อีกทั้งทางร้านก็ไม่ได้ขอเบอร์โทรศัพท์คนร้ายไว้ด้วย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปขอตรวจสอบที่ธนาคารในกระบวนการเคลียริ่งเช็ค ต้องมีการเปิดหน้า มีบัตรประชาชนเป็นหลักฐาน
โดยขณะนี้ทราบชื่อเจ้าของบัญชีที่ไปดำเนินการเคลียริ่งแล้ว เป็นผู้หญิง ชื่อ น.ส.พิชชาภา ครณรงค์ เมื่อนำชื่อเข้าตรวจสอบพบว่าเคยมีพฤติกรรมก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวที่จังหวัดระยอง เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา ขณะนี้ได้ใช้เทคโนโลยีในการติดตาม ไล่เช็กกล้องวงจรปิดตามจุดสำคัญต่างๆ เร่งติดตาม รู้ตัว 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว เหลือผู้ชายที่หลบหนี น่าจะดำเนินการเป็นขบวนการและตระเวนไปตามจังหวัดต่างๆ ทำพฤติกรรมหลอกลวงร้านทองในลักษณะเช่นนี้
พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย เตือนร้านทองต่างๆ ว่าหากมีบุคคลที่ไม่คุ้นเคยหน้ามาซื้อทอง ขอให้ตรวจสอบหลักฐานให้ชัดเจน ขอดูบัตรประชาชน เพราะขณะนี้มิจฉาชีพอาจใช้วิธีนี้หลอกลวงชิงทรัพย์ เพราะเป็นเงินจำนวนมากอาจหลงลืมตรวจสอบให้ละเอียด