เชียงใหม่ - เชียงใหม่หนาวเย็นต่อเนื่อง “ดอยอินทนนท์” อุณหภูมิต่ำสุด 4 องศาเซลเซียส เกิด “เหมยขาบ” ต่อเนื่อง 3 วันซ้อน ทางยาวตั้งแต่กิ่วแม่ปานถึงยอดดอย ขณะเดียวกันพบที่สวนกาแฟ “สหายพเนจร” บ้านขุนกลาง อุณหภูมิยอดหญ้าลดต่ำเหลือ 0 องศาเซลเซียส น้ำค้างแข็งเป็นเกล็ดเกาะเต็มต้นกาแฟและขาวโพลนทั่วพื้นที่
วันนี้ (10 ก.พ. 65) รายงานข่าวแจ้งว่าทั่วพื้นที่ที่จังหวัดเชียงใหม่สภาพอากาศยังคงหนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่อง โดยเช้าวันนี้ในตัวเมืองใหม่อุณหภูมิต่ำสุดเพียง 13-15 องศาเซลเซียส ขณะที่ตามยอดดอยอากาศหนาวจัดประมาณ 5 องศาเซลเซียส ซึ่งที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เช้านี้วัดอุณหภูมิต่ำสุดได้ 3.5 องศาเซลเซียส ส่วนที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เช้านี้อุณหภูมิต่ำสุดวัดได้ 4 องศาเซลเซียสที่ยอดดอยอินทนนท์และกิ่วแม่ปาน พร้อมกับเกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็ง หรือเหมยขาบ ต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 3 แล้ว
โดยเหมยขาบที่ดอยอินทนนท์เช้านี้เกิดขึ้นบริเวณพงหญ้าสองข้างทางตั้งแต่ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 42 กิ่วแม่ปาน ไปจนถึงบริเวณยอดดอยหลักกิโลเมตรที่ 47 ซึ่งในบางจุดที่เป็นจุดอับลมจะพบเห็นเหมยขาบที่สวยงามเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นจุดที่มีน้ำค้างแรงไม่มีกระแสลมพัดผ่านทำให้น้ำค้างที่เกาะตามยอดหญ้า และใบไม้ ตกผลึกกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งสะท้อนแสงระยิบระยับสวยงาม สร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปสัมผัสอากาศหนาวอย่างมาก ซึ่งเหมยขาบในช่วงนี้คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นเป็นช่วงท้ายของฤดูหนาวปีนี้แล้ว
ทั้งนี้ นอกจากเหมยขาบที่เกิดขึ้นบริเวณยอดดอยอินทนนท์แล้ว รายงานข่าวแจ้งว่าในพื้นที่ต่อเนื่องกันอย่างที่สวนกาแฟอะราบิกา “สหายพเนจร” ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านขุนกลาง ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เช้าวันนี้ในพื้นที่ของสวนที่ปลูกกาแฟได้เกิดเหมยขาบ หรือน้ำค้างแข็งขึ้นเช่นกันเนื่องจากอากาศที่หนาวจัดและอุณหภูมิที่ยอดหญ้าต่ำจนเหลือ 0 องศาเซลเซียสเท่านั้น ส่งผลทำให้เกิดเหมยขาบเป็นเกล็ดน้ำแข็งเกาะตามต้นกาแฟและพวงเมล็ดกาแฟบนต้น รวมทั้งต้นไม้ใบหญ้าทั่วบริเวณจนขาวโพลนสะท้อนแสงวิบวับ มองเห็นเป็นภาพที่สวยงามและน่าประทับใจอย่างมากแก่ผู้ที่พบเห็น
ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือรายงานว่า ทางกรมอุตุฯ ได้ออกประกาศเตือนพื้นที่ภาคเหนือให้เตรียมรับมือสภาพอากาศแปรปรวน ในช่วงวันที่ 11-13 ก.พ. 65 เนื่องจากคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้พัดเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงรวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
