อุทัยธานี - ศึกษาธิการอุทัยธานีเผยเร่งสอบครูหญิงโรงเรียนมัธยมสั่ง นร.ชายจ้องหน้าอก นร.หญิงไม่ใส่เสื้อซับใน-ครูชายแชตคุกคามทางเพศ ด้านเด็กนักเรียนระบุต้องดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ควรปล่อยให้โรงเรียนจัดการฝ่ายเดียว
ความคืบหน้ากรณีมีการแฉพฤติกรรมครูประจำชั้นของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน อ.เมืองอุทัยธานีบนโลกโซเชียลฯ ทั้งเฟซบุ๊ก-ทวิตเตอร์ และ Tik Tok พร้อมระบุแฮชแท็กว่าเป็น #โรงเรียนประจำจังหวัดสีเหลืองแดง ลงโทษเด็กนักเรียนหญิงที่ไม่ใส่เสื้อซับในมาโรงเรียนด้วยการให้เพื่อนนักเรียนชายจ้องมองหน้าอก จนกลายเป็นกระแสเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ซ้ำยังพบว่านอกจากเรื่องดังกล่าวแล้ว ยังมีคนออกมาตีแผ่ปัญหาเกี่ยวกับประเด็นการคุกคามนักเรียนหญิงอื่นๆ ในเรื่องที่ครูผู้ชายส่งข้อความคุกคามทางเพศใส่นักเรียนหญิงอีกด้วยนั้น
ล่าสุดวันนี้ (9 ก.พ. 65) นายรณชัย ทัดช่อม่วง ศึกษาธิการจังหวัดอุทัยธานี ในฐานะที่เป็นหน่วยงานกำกับดูแลทางสถานศึกษาในจังหวัด เปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าว ก็ได้ประสานกับผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อสอบถามว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ซึ่งทางผู้อำนวยการฯ ก็ได้รายงานให้ทราบว่ามีครูที่ปรึกษาได้ตรวจสภาพการแต่งกายของเด็ก ตั้งแต่ทรงผม เล็บ สุขภาพต่างๆ เจอเด็กไม่ได้ใส่เสื้อซับในมาโรงเรียน แล้วลงโทษด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสม ด้วยการเรียกเพื่อนนักเรียนชายที่นั่งอยู่ข้างๆ มาถามและชี้ให้ดูว่าเพื่อนใส่แบบนี้เหมาะสมไหม
เบื้องต้นก็ได้กำชับให้ผู้บริหารโรงเรียนเข้าไปทำความเข้าใจกับผู้ปกครองและเด็ก ซึ่งผู้อำนวยการโรงเรียนและฝ่ายบริหารได้ดำเนินการตรงส่วนนี้แล้วเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยได้ลงพื้นที่ไปพบกับผู้ปกครองเด็กนักเรียนชี้แจงทำความเข้าใจในสิ่งที่โรงเรียนได้ดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งไปด้วยว่าไม่อยากให้ครูลงโทษด้วยวิธีการแบบนี้ ซึ่งโรงเรียนก็ยอมรับว่าทำเกินกว่าเหตุจริง ครูเองก็ยอมรับว่าที่ทำไปนั้นด้วยความเป็นห่วงเรื่องของความเรียบร้อยของนักเรียน ซึ่งตนก็ได้เตือนให้ครูคนนั้นไตร่ตรองวิธีการลงโทษให้ถี่ถ้วน เพราะครั้งนี้ถือว่าครูใช้วิธีการที่ผิดกับเด็กนักเรียน ขณะเดียวกันผู้อำนวยการโรงเรียนก็แจ้งให้ทราบว่ากำลังตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริง เมื่อหาข้อเท็จจริงแล้วก็ดำเนินการทางวินัยในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ส่วนที่มีข้อความแชตของครูผู้ชายโรงเรียนเดียวกัน ซึ่งมีลักษณะของการคุกคามทางเพศเด็กนักเรียนหญิง หลุดออกมาเผยแพร่อีกด้วยนั้น ตรงส่วนนี้ก็ได้สอบถามทางผู้อำนวยการ ก็แจ้งว่าได้ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงว่าเป็นการแชตพูดคุยระหว่างครูกับเด็กนักเรียนจริงหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นครูผู้ชายที่ถูกกล่าวหาก็ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้มีการแชตกับนักเรียนตามที่ถูกกล่าวอ้าง พร้อมอ้างว่า..ถูกแฮกเฟซฯ และได้แจ้งความไว้ที่ สภ.อุทัยธานี แล้วเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ในส่วนของการเยียวยานั้น ทางหน่วยงานของพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุทัยธานี, บ้านพักเด็กจังหวัดอุทัยธานี ได้ลงไปติดตามเพื่อดูแลช่วยเหลือคุ้มครองเด็กในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในเบื้องต้นนั้นกำลังหาข้อเท็จจริง และคาดว่าจะลงไปที่บ้านที่พักของเด็กอีกครั้งหนึ่งเพื่อดูสภาพความเป็นอยู่ในส่วนตรงนั้น
ศึกษาธิการจังหวัดฯ ย้ำว่ากระทรวงศึกษาธิการได้เน้นย้ำนโยบายมาตลอดว่า สถานศึกษาจะต้องเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับเด็กนักเรียน จะต้องไม่มีภัยคุกคามจะต้องไม่มีความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นแก่เด็ก ตนในฐานะที่เป็นหน่วยประสานงานของกระทรวงศึกษาธิการอยู่ในพื้นที่ ทุกครั้งที่มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานทางการศึกษาของเขตพื้นที่ ของอาชีวศึกษาอะไรต่างๆ ก็จะเน้นย้ำเรื่องนี้ทุกครั้งว่าทุกแห่งต้องช่วยกันควบคุมดูแลอย่าให้เกิดปัญหานี้กับโรงเรียนกับเด็กนักเรียนในพื้นที่ของจังหวัดอุทัยธานี
ด้านนักเรียนหญิงรายหนึ่งที่ศึกษาอยู่ภายในโรงเรียนที่เกิดเหตุ ได้เปิดเผยถึงความรู้สึกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในมุมมองของตัวเองว่า เรื่องที่เกิดขึ้นก็ถือว่าเป็น sexual harassment (คุกคามทางเพศ) อย่างหนึ่ง ครูคนหนึ่งไม่ควรทำกับเด็กอายุ 14 ปีแบบนี้ เพราะมันจะทำให้เขาฝังใจ ถึงแม้ว่าจะมีการขอโทษแล้วก็ตาม ซึ่งก็ไม่น่าจะโอเคกับเรื่องแบบนี้ เพราะสิ่งที่ครูได้กระทำลงไปแบบนั้นมันถือได้ว่าเป็นการคุกคามได้เลย เรื่องแบบนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นในโรงเรียน และไม่ควรเกิดขึ้นกับที่ไหนเลยด้วย
ถ้าในมุมมองเรื่องของการลงโทษครูนั้น เอาจริงๆ ก็สมควรต้องไล่ออก หรือไม่ก็ต้องดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งก็ต้องแล้วแต่ทางครอบครัวของน้องด้วย เรื่องนี้ไม่สมควรที่จะแล้วแต่โรงเรียน (ไม่ควรยกให้เป็นการตัดสินใจของโรงเรียน) แต่ควรอยู่ที่การตัดสินใจของครอบครัวผู้เสียหายมากกว่า อีกทั้งเรื่องนี้ยังทำให้เกิดความเสื่อมเสียของโรงเรียนอย่างมาก และอยากจะบอกว่า..เด็กก็มีความรู้สึก เด็กก็มีความคิด ผู้ใหญ่ไม่ควรมาลงทุกอย่างกับเด็กแบบนี้