กาฬสินธุ์ - ชาวบ้านใน ต.โพนงาม อ.กมลาไสย สมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ที่เคยกู้เงินกองทุน 5 แสนบาทเพื่อซื้อวัวพันธุ์บราห์มันกับบริษัทเอกชนมาเลี้ยง แต่ได้วัวไม่ถูกสเปก และร้องขอความช่วยเหลือจากยุติธรรมจังหวัดนาน 5 เดือน ล่าสุดได้วัวใหม่ทดแทนแล้ว
จากกรณีชาวบ้านใน ต.โพนงาม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ สมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขา จ.กาฬสินธุ์ ได้รับความเดือดร้อนหลังรวมกลุ่มกู้เงินกองทุน 5 แสนบาทเพื่อซื้อวัวพันธุ์บราห์มันกับบริษัทเอกชนมาเลี้ยงหวังสร้างงาน สร้างอาชีพ แต่นายทุนส่งวัวมาให้ 10 ตัว ราคาตัวละ 36,000 บาท รวม 360,000 บาท รวมค่าอาหารเสริม ค่าหญ้าอีกกว่า 140,000 บาท กลับเป็นวัวที่ไม่ตรงตามสัญญา ทั้งน้ำหนัก และสายพันธุ์ บางตัวผอมแห้ง และมีตุ่มคล้ายป่วยโรคลัมปีสกิน วอนนายทุนขอเงินคืน
แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงตลอด เข้าร้องทุกข์และปรึกษากองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขา จ.กาฬสินธุ์ และศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์และร้องยุติธรรมช่วยเหลือ จนกระทั่งมีการตั้งโต๊ะเจรจาไกล่เกลี่ยเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (9 ก.พ.) ที่ศูนย์ประสานงานกลุ่มเกษตรยั่งยืนบ้านธนบุรี ต.โพนงาม อ.กมสาไลย จ.กาฬสินธุ์ มีชาวบ้านมาร่วมแสดงความยินดีกับสมาชิกกลุ่ม หลังทางนายทุนขายวัวจัดส่งมอบวัวสายพันธุ์บราห์มัน จำนวน 12 ตัว วงเงิน 360,000 บาท มาให้สมาชิกกลุ่ม มีเจ้าหน้าที่จากกองทุนฟื้นฟูฯ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ และคณะกรรมการไกล่เกลี่ย ตัวแทนบริษัทขายวัว และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยาน
นางสำเนียง ขันวิสิทธิ์ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 277 บ้านธนบุรี หมู่ 5 ต.โพนงาม สมาชิกกลุ่มเกษตรยั่งยืนบ้านธนบุรี กล่าวว่า หลังจากที่ตนและเพื่อนสมาชิก 12 คน พยายามเรียกร้องทางนายทุนจัดส่งวัวที่ถูกสเปกมาให้ เนื่องจากได้ร่วมกันกู้เงินกองทุนฟื้นฟูฯ จำนวน 500,000 บาทไปแล้ว โดยเป็นค่าซื้อวัว 360,000 บาท ค่าอาหารเสริมและค่าดำเนินการอีก 140,000 บาท แต่ก็เกิดความผิดพลาด โดยครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2564 นายทุนส่งวัวที่ไม่ตรงสเปกมาให้ เกษตรกรไม่ยอมรับ จึงให้นายทุนมารับวัวคืนไป
จากนั้นพยายามเรียกร้องเงินจากนายทุนคืนเพื่อจัดซื้อวัวมาเลี้ยงเอง แต่เมื่อมีการเจรจาไกล่เกลี่ยเกิดขึ้น ทางนายทุนยินยอมจัดหาวัวชุดใหม่ที่ตรงตามสัญญามาให้ และมีการส่งมอบกันในครั้งนี้ ตนและเพื่อนสมาชิกทุกคนรู้สึกดีใจมาก และจะตั้งใจเลี้ยงดูวัวให้ดีที่สุดและรักวัวเหมือนลูก เนื่องจากตนชอบเลี้ยงวัวมาก
ด้านนายวิเชฐ เขตประกร อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 12 บ้านธนบุรี ต.โพนงาม ประธานกลุ่มเกษตรยั่งยืนบ้านธนบุรี กล่าวว่า ตนเองก็รู้สึกดีใจจนพูดไม่ออก หลังจากตลอด 5 เดือนที่ผ่านมาได้ร่วมกับเพื่อนสมาชิกเรียกร้องความเป็นธรรมจากนายทุนขายวัว ไม่ว่าจะเป็นในส่วนขอเงินคืนหรือจัดวัวมาให้ อย่างหนึ่งอย่างใดก็ได้ กระทั่งถึงวันนี้ได้มีการส่งมอบวัวกันเกิดขึ้น ต้องขอขอบคุณทุกๆ ฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือ
ขณะที่ ร.ต.อ.ธีระชัย ภูเกิดพิมพ์ หนึ่งในกรรมการไกล่เกลี่ย กล่าวว่า หลังจากได้รับการร้องขอจากเกษตรกรกลุ่มเกษตรยั่งยืนบ้านธนบุรีดังกล่าว สำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้จัดตั้งคณะกรรมการไกล่เกลี่ย และประสานบริษัทเอกชนเจรจา เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งผลการเจรจาทางนายทุนยินยอมจัดหาวัวชุดใหม่มาให้ โดยให้เกษตรกรไปเลือกวัวเอง
จากนั้นมีการส่งมอบและจะได้มีทำสัญญากันใหม่ ทั้งเกษตรกรและบริษัทเอกชนซึ่งเป็นผู้ประกอบการ ได้รับความพอใจ ซึ่งถือว่ากรณีนี้สามารถยุติลงได้ด้วยดี